หยางหมิงซาน
เป็นรีวิวที่อยากจะเขียนแต่ก็ไม่ได้เขียนซักกะที (รวมถึงอุนสรณ์สถานจงเรี่ยฉือด้วยค่ะ วันๆมีแต่ของกินมานำเสนอ เพื่อนๆตัวจะแตกกันจะแย่แล้วเนอะ >,<) ไปโอเอซิสไทเปกันบ้างดีกว่า อย่างอุทยานแห่งชาติหยางหมิงซาน ซึ่งมีพื้นที่ครอบคลุมไทเปและนิวไทเปค่ะ ที่เคยเขียนไว้ว่าทำไมถึงชอบไต้หวันก็เพราะว่าเค้ามีธรมชาติรายล้อมผสมสานความโมเดิร์นได้อย่างลงตัว ถือได้ว่าเป็นสถานที่ โมเดิร์น ชิค เรโทร อาร์ท ใกล้ชิดธรรมชาติอย่างแท้จริง
ก่อนจะเดินทางไปอาเจ็กก็ส่งลูกสาวมาคุยกับรัตน์ในไลน์ก่อนละ เพราะเราพูดภาษาจีนไม่ได้สื่อสารภาษาอังกฤษอย่างเดียว ดีหน่อยที่อาเจ็กพูดภาษาไทยได้สนุกมากๆ ก็บอกว่าอยากไปหยางหมิงซาน (จริงๆอยากไปเองมากกว่า แต่มีรถแบบนี้ก็ดีนะสบายดี) ก่อนจะขึ้นไปด้านบนเขา อาเจ็กอาซิ่มพามาทานอาหารร้านพื้นเมืองที่ตีนเขาหยางหมิงซานนี่แหละค่ะ
อ่านไม่ออกซักกะตัว T__T
รู้แต่เค้ามีซุปมันฝรั่งขิง ของโปรด !!! ให้ตักทานฟรีๆด้วยค่ะ
คือชอบอะอร่อย คักแล้วตักอีก
หน่อไม้ไต้หวันค่ะ ผัดขึ้นมาแล้วหน้าตาเป็นแบบนี้ล่ะ
โปยเล้งที่ไหนก็มีนะเนี่ย (ใช่เปล่าหว่า)
จานนี้อร่อยค่ะไม่รู้ว่าเรียกว่าอะไร เป็นเหมือน Yam (ภาษาไทยเค้าเรียกว่าอะไรน้า)
ผัดผักรวมค่ะ (สังเกตุน้ำมัน ฮ่าๆอาหารจีนนี่แนะ)
ไก่บ้านอบสไตล์ไต้หวัน วิธีทำไม่ยากเลยค่ะ !!! (เฮ้ยนี่สอนทำกับข้าวแล้วเหรอ)
ก็มีหลายๆรสชาติกันไปบ้างสอนทำอาหารแบบไต้หวันก็ไม่เลวเนอคะ จริงๆเหมือนทำไก่ผัดซีอิ๋วบ้านเราเลยค่ะ แต่สูตรนี้จะใส่น้ำตาลลงไปเคี้ยวอีกค่ะ รวมถึงใส่ใบกระเพรา และที่ขาดไม่ได้เลยนั้นก็คือ ซีอิ๋วไต้หวันซอสหวานของไต้หวัน หาซื้อได้ตาม7/11 ค่ะ
อาเจ็กกับอาซิ่มใจดีที่สุด ^-^\
เรามาเดินทางต่อดีกว่าค่ะหมดกับอาหารเช้ากลางวัน ถึงเวลาที่ต้องเดินทางต่อ
การเดินทางที่ไปไทเปรอบที่แล้วนั้นรัตน์ไปในช่วงเดือนพฤษภาคมค่ะ ซึ่งตอนนั้นมีดอกคาลาลิลลี่บานอยู่เต็มไปหมดเลย ^^ สามารถซื้อกลับบ้านก็ได้นะมาเดินดูดอก คาลาลิลลี่กันจะแตกต่างจากลิลลี่บ้านเราตรงไหนบ้าง ถ้าจะให้พูดก็พูดตรงบริเวณนี้จาก หยางหมิงซาน ที่มีดอกไม้ขึ้นเยอะๆนั้นจะมีหลายฟาร์มที่ปลูกกันค่ะ เรามาฟาร์มไหนก็ไม่รู้เหมือนกัน อ่านไม่ออก แต่ถ้านั่งรถเมล์มาก้ต้องผ่านบริเวณนี้เหมือนกันก็เลือกเอาตามสะดวกว่าจะเข้าไปดูของฟาร์มไหนนะคะ
เดินข้ามสะพานมาแบบนี้ (นี่เรากำลังผจญภัยลูกเสือกันอยู่ใช่มั้ยจ้ะ)
ว้าว ถ้าใครมีกล้องดีๆ ถ่ายออกมาสวยแน่นอนค่ะ !!!
เดินมาแล้วก็ผ่านป้ายแบบนี้จ้ะ
สุดลูกหูลูกตามีแต่ดอกไม้สีขาว สวยเด่นเป็นสง่า
ถ้าให้พูดถึงดอกลิลลี่แล้วนั้นมันก็มีความหมายอยู่นะคะ ไปคุ้ยๆหามาให้ ดอกลิลลี่สีขาวนั้นเป็นการแสดงออกความรักที่บริสุทธิ์ซึ่งความหมายนั้นเหมือนกับดอกกุหลาบสีขาวนั่นเองค่ะ รวมถึงแสดงความรักแบบอ่อนหวาน จริงใจ และเทิดทูนด้วยแหละ สาวๆคะเวลามีหนุ่มๆนำดอกลิลลี่สีขาวมาให้เค้าอาจจะบอกกับคุณว่า “ผมรู้สึกดีที่ได้รู้จักและได้อยู่ใกล้คุณ” ก็เป้นไอได้นะคะ (หากเค้าเป็นหนุ่มโรแมนติกนะ !!)
ทำไมคาลาลิลลี่ถึงดูไปดูมาคล้ายดอกหน้าวัวน้า
มีดอกไม้ มีภูเขา
แล้วก็เดินกลับกันค่ะ
สุดท้ายก็ไม่ได้ซื้อกลับค่ะ เคยได้ยินมั้ยคะว่า เวลาเราเห็นดอกไม้สวยๆเราอยากจะเด็ดมาชื่นชมเป็นของเรา มันจะสวยอยู่ในกระถางของเรา แล้วมันก็เหี่ยวไป บางคนเค้าถึงไม่คิดจะนำดอกไม้ที่เห็นสวยๆเก็บมาชื่นชมเพียงคนเดียวมองมันเหี่ยวแค่ดอกเดียวหรือช่อเดียว ปล่อยให้มันสวยต่อไปตามธรรมชาติของมันดีกว่า
หลังจากจุดชมทุ่งดอกไม้นั้น จุดหมายปลายทางต่อไปของเราคือ ภูเขาตรงนั้นค่ะ !!! ที่ๆกำลังจะไปนั้นเป็นจุดยอดนิยมของคนที่มาที่นี่ค่ะ เรียกว่า Xiaoyukeng (小油坑) ภาษาไทยว่าอย่างไรนะคะ !!! ใครอ่านออกช่วยบอกที อะไรเสี่ยวๆซักอย่าง
พอจอดรถเสร็จปุ๊บก็ถึงเวลาต้องเดินขึ้นเข้าแล้วค่ะ
เดินไปเรื่อยๆ คนที่นี่เวลาเค้าอยากจะมาพักผ่อนออกกำลังกาย นอกจากจะไปที่เขาช้างแล้ว ที่นี่ก็เป็นอีกที่ที่ชาวไต้หวันเค้ามากันเพื่อเดินเขาออกกำลังกายล่ะค่ะ
อีกนิดเดียว 0.32 กิโลนะ !!
เอ๊ะป้ายนี้กำลังจะเล่าอะไรให้เราฟัง อ่าวไม่ได้อัพรูปขึ้นให้ เป็นการอธิบายให้ฟังค่ะว่าบริเวณโดยรอบนั้นมีสิ่งมีชีวิตอะไรอยู่บ้างค่ะ ซึ่งบริเวณนี้จะเป็นสัตว์เลื้อยคลานค่ะ
อีก 0.2 กิโลเท่านั้นจะถึงจุดที่เราจะไปกันแล้วจ้ะ
ก้มๆเงยๆ ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ เงยหน้าขึ้นมาเจอวิวแบบนี้ ดีใจอ่ะจะถึงแล้วที่เรานั่งรถผ่านมา !!! ถึงจุดบริการนักท่องเที่ยวแล้วค่ะ ซึ่งเป็นจุดที่เราเดินไปถึงตรงส่วนที่มีไอครุกกรุ่นของภูเขาไฟได้ด้วย
แวะเข้าห้องน้ำแป๊บนึงสิ
มีบริการสำหรับผู้พิการด้วยค่ะ คือเป็นเส้นทางที่บริการเอาไว้ให้ ใครขาดีครบทุกส่วนก็เดินอีกทางค่ะ
ตอนนี้เราอยู่ที่ Xiaoyukeng (小油坑) ค่ะมาชมวิวกันดีกว่า บริเวณนี้อาเจ็กบอกว่าเป็นแหล่งแร่ธาตุต่างๆที่มีอยู่ในออนเซน น้ำพุร้อนที่ไต้หวันด้วยค่ะ เช่นที่เป่ยโถว
เดินเข้ามาใกล้ๆแบบนี้
ระวังไอร้อนด้วยนะคะ เพราะถึงภูเขาไฟจะดับไปแล้ว แต่ที่ไต้ดินยังคงระอุไปด้วยความร้อนที่ยังไม่ได้สนิทดีทีเดียว
ชอบมุมนี้ค่ะดูเหงาๆดีนะ
และแล้วเราก็เดินลงกันค่ะ เพื่อไปอีกจุดต่อไป
เดินไปหารถกันโดยคราวนี้เราจะเดินอ้อมทางเดินเขาไปเรื่อยๆค่ะ
เดินตามทางรถวิ่งอ้อมมาเรื่อยๆ ระหว่างทางก็จะเห็นเส้นทางภูเขาแสนสวยอยู่ด้วยนะคะ
คือสิ่งที่ยังทำให้เราอึ้งได้คือ นี่คือเมืองหลวงของไต้หวันค่ะ คือไทเป ซึ่งมีสถานที่แบบนี้ด้วย น่าอิจฉาจริงๆ
อาเจ็กเดินนำหน้าไม่คอยหลานเลยจ้ะอีก 2.9 กิโลเมตรจะถึง Zhuzihu (ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีทุ่งดอกไม้นั่นเองค่ะ
รู้สึกเหมือนไป ทีลอซู
ใครที่เดินก็จะได้เจอป้ายบอกรายละเอียดแบบนี้ด้วยค่ะ รัตน์ขอไม่เล่าดีกว่าค่ะ อยากให้เพื่อนๆไปกันเอง เห็นด้วยตาตัวเอง
ในที่สุดก็เดินถึงที่จอดรถ -__-”
เดินมาดูวิวค่ะ แต่เอาเข้าจริงๆแล้ว ย้อนแสง ถ่ายอะไรไม่ได้เลย (กลับ)
สถานที่ต่อไปที่ไปแวะกันก็คือ Mt. Datun (大屯山) หรือเค้าเรียกกันว่า Datun Nature Park ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกของอุทยานแห่งชาติหยางหมิงซานนั่นเองจ้ะที่นี่อุดมไปด้วยพื้ช และสัตว์นานาชนิด รวมถึงผีเสื้อสวยๆด้วยค่ะ
มาถึงก็ต้องประทับตรากันแบบนี้ซักกะหน่อย
วันนี้ตลอดการเดินทางฝนตกปรอยๆทั้งวันค่ะ ต้องถือร่ม เวลาถ่ายดอกไม้ก็จะมีหยดน้ำแบบนี้เต็มไปหมดก็สวยไปอีกแบบ
ระหว่างที่เดินๆไปตามทางเรื่อยๆก็เจอว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวมาถ่าย Pre Wedding กันค่ะ (นึกถึงเวลารับงานพิธีกรงานแต่งเห็นคู่บ่าวสาวแล้วก็ยินดีไปกะเค้าด้วยน้า) วันนี้เจอที่สวนนี้ จำนวน 3 คู่ ชุดแต่งงานที่ไต้หวันเค้ามีหลากหลายสีสันมากมายค่ะ สำหรับคนไทยเวลางานแต่งจะเจอ สีขาว ทอง ครีม ไม่ค่อยเจอสีสันมากมายเท่าไหร่
ตอนที่เดินข้ามบ่อน้ำนั้นมีเสียงกบร้องระงมเต็มไปหมดเลยจ้า
มีอธิบายวงจรของสิ่งมีชีวิตในนี้ด้วยนะคะ สิ่งที่ห้ามทำเลยคือนำสัตว์มาปล่อยค่ะ จะทำให้ห่วงโซ่อาหารของธรรมชาติผิดแปลกไป
งดลงไปเล่นน้ำด้วยจ้ะ !!!
เรากำลังเดินไปที่จุดแวะพักด้านบนเพื่อไปกันต่ออีกที่ ซึ่งเป็นจุดที่ใครหลายๆคนชอบไปเที่ยวในช่วงซากุระบานค่ะ !!
ชอบถ่ายดอกไม้แบบนี้ ^^
หันไปทางไหนก็เขียวไปหมดเลยนะเนี่ย ดีจริงๆ ปอดใหญ่มาก
โบกมือลา Datun Nature Park กันแล้วค่ะ ไปต่อกันที่ที่สุดท้ายดีกว่า
และแล้วก็มาถึงจุดที่ยอดฮิตในการชมซากุระ เพราะเวลาพูดถึงจุดชมซากุระในช่วงเดือน 2-3 แล้วนั้น หยางหมิงซานถือได้ว่าเป็นจุดยอดฮิตๆที่นักท่องเที่ยวต้องมาเลยก็ว่าได้ค่ะ Yangming Park จุดนาฬิกาดอกไม้นั่นเอง ซึ่งอยากให้ลองมาเดินในช่วงที่ซากุระบานค่ะคือช่วงกลางๆปลายๆเดือน 2 ถึงเดือนมีนาคมกลางเดือนค่ะ แต่ยังไงก็ต้องเช็คก่อนนะคะว่าบานรึยังมาแล้วไม่เจอเสียเที่ยวแย่เลย
นำตัวอย่างตอนที่มีซากุระมาฝากเพื่อนๆจ้ะ
ที่ตรงนี้ก็จะมีพืชพรรณเต็มไปหมดให้เดินดูสวนกันค่ะ ใครที่ชื่นชอบสวน ธรรมชาติคงจะถูกใจกันนะ
เดินขึ้นมาด้านบนจะมีจุดบริการนักท่องเที่ยวและขายของที่ระลึกค่ะ
น้องหมาน้อย (ไม่น้อยนะเฝ้าทางเข้าอยู่จ้ะ)
เดินลงมาด้านล่างมีขนมแบบนี้ขายด้วย จากนั้นเราก็นั่งรถกลับเข้าเมืองกันล่ะจ้า !! หมดแล้วเราเดินทางไป 4 จุดเท่านั้น
ไปดู ดอกไม้ -> เดินเขาเล็กน้อย -> สวนอีกที่ทางทิศตะวันตก
-> สวนยางหมิง แค่นี้ก้ใช้เวลาไป 2-3 ชั่วโมงแล้วค่ะ อยากไปสัมผัสบรรยากาศจริงๆกั
วิธีการเดินทางโดยรถบัส จากเว็บไซต์หลักของหยางหมิงซาน คลิกที่นี่