รีวิว The Lalu Sunmoonlake ทะเลสาบสุริยันจันทรา
ที่พักสุดหรู ตัดบัตรไปเลย 19,600 TWD
หลังจากที่รอบที่แล้วได้พูดถึงที่พักสุดหรูระดับ 5 ดาวอย่าง The Lalu Sun Moon Lake ในการเดินทางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมารัตน์ได้มีโอกาสไปพักมาที่นี่แล้วค่ะ The Lalu Sunmoonlake ที่นี่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกและชาวไต้หวันเองต่าง ต้องการจับจองเข้าพักที่นี่ นอกเหนือจากวิวที่สวยแล้ว ยังมีฮวงจุ้ยที่ดีมาก ๆ จุดหนึ่งในไต้หวัน รับพลังงานได้เต็มที่ มีคู่ฮันนีมูน คู่แต่งงาน ครบรอบแต่งงาน และเป็นแบบครอบครัวมาพักกันที่นี่ค่อนข้างเยอะเลยค่ะ
ล็อบบี้ตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 748 เมตร อยู่ที่ชั้น 8 ค่ะ โดยตอนที่รถขับมาส่งจากตรงท่า Suishe จะเห็นว่าระหว่างทางต้องขับขึ้นเขามาเล็กน้อย (แต่ก็ดูไม่ค่อยออกว่าอยู่ที่สูง เพราะบริเวณที่พักเป็นส่วนตัวมากจริงๆ) แต่วันที่รัตน์ไปนักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะค่ะ
ที่นี่ก่อตั้งโดยนักธุรกิจชาวญี่ปุ่น คุณอิโตะ ซึ่งตอนแรกทำเป็นคฤหาสน์ส่วนตัว และเมื่อปี 1923 มกุฎราชกุมาร Hirohito ได้ทำให้ที่แห่งนี้เป็นบ้านพักรับรองเมื่อเสด็จเยือนไต้หวันค่ะ (ไต้หวันเคยถูกญี่ปุ่นปกครองมาก่อนด้วยนะคะทุกคน) หลังจากที่เจียงไคเช็คเข้ามาปกครองไต้หวัน ก็ได้ทำให้ The Lalu กลายมาเป็นบ้านพักตากอากาศส่วนตัวของท่านเองค่ะ จนมาปี 1998 จึงได้กลายมาเป็นรีสอร์ทจนมาถึงปัจจุบันนี้ เรียกได้ว่ามีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน มีกลิ่นอายความเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นและไต้หวันผสมผสานกันออกมาเป็น The Lalu Sunmoonlake
Welcome Drink ของที่พักเป็นชาแดงทะเลสาบสุรยันจันทราที่ขึ้นชื่อและบ๊วยค่ะ อร่อยมาก
ห้องที่รัตน์เข้าพักเป็นแบบ Lakeview suite
ห้องราคาเริ่มต้นคืนละ 19,600 TWD พื้นห้องเป็นไม้สักทองทั้งห้องค่ะ มีระเบียงให้มองวิวทะเลสาบสุริยันจันทราแบบ 180 องศา (มีที่บังวิวคือต้นไม้ตรงกลาง >.<) ในห้องแบ่งเป็นทั้งหมด 4 โซนด้วยกันค่ะ ห้องนอน , โซนรับแขก นั่งเล่น , โซนห้องน้ำ พร้อมอ่างแช่สบายๆ และที่กล่าวไปข้างต้น ระเบียงที่จะนั่งจิบน้ำชา ชมวิวเงียบๆ ขนาด 20 ตรม. ก็ยังได้ โซน Indoor 83 ตารางเมตรสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องได้แก่
– ทีวีแบบหมุนได้ พร้อมความบังเทิงเยอะมาก
– ไดร์เป่าผม Toiletties แชมพู คอนดิชันเนอร์ และสบู่ของที่พัก (ไม่มีแบบนำกลับ)
– เตียงนุ่มๆ ขนาด King Size และหมอน 4 ใบ (แค่หมอนก็เต็มเตียงแล้วค่ะ)
– หัวแปลงปลั๊กไฟอยู่ข้างหมอนเลยค่ะ
– เครื่องเล่นซีดี เปิดเพลงฟังได้ พร้อมแผ่นซีดีของที่พักเป็นเพลงของที่พักค่ะ
– คุ๊กกี้ชามีเตรียมไว้ให้ทานอร่อยมาก
– เตาผิงระบบแก๊ส สำหรับช่วงหน้าหนาว เปิดเตาผิงให้ความอุ่น
– เซตกาชา และกาแฟ
– ระบบควบคุมผ้าม่าน กดเปิดปิดผ้าม่านเอาได้สามารถปิดประตูกั้นระหว่างโซนห้องน้ำและห้องนอนได้ค่ะ
จากมุมนี้จะเห็นมีตู้เสื้อผ้าเล็กๆ อยู่นะคะ สลิปเปอร์อยู่ด้านในตู้เสื้อผ้าค่ะ
มุมห้องนั่งเล่น มีเตาผิงที่เป็นไฟจริงๆ ใช้ระบบเปิดปิดอัตโนมัติมีรีโมทมาให้ควบคุมค่ะ
มุมจากโซนห้องนั่งเล่นมองออกไปทางระเบียงค่ะ
สามารถมาเปิดฟังเพลงเบาๆ ดูวิวทะเลสาบสุริยันจันทราไปด้วยได้เลย
กระจกบานใหญ่สะใจดีค่ะ มีแสงจากทางทะเลสาบส่องมาให้แต่งหน้าง่ายขึ้นหน่อย แบ่งอ่างล้างหน้าเป็น 2 ฝั่งไม่ต้องแย่งกัน
ห้องอาบน้ำจะอยู่ตรงฝั่งขวามือ เป็น Rain Shower และมีฝักบัวธรรมดาอยู่ค่ะ ส่วนห้องทำธุระจะอยู่อีกฝั่งใกล้ประตูทางเข้าห้อง
ระเบียงด้านนอกกว้าง 20 ตรม. มานั่งจิบชาแบบนี้ได้ค่ะ รัตน์มาช่วงเดือน 2 อากาศกำลังดีเลยไม่ร้อนมากไป หรือเย็นมากไป เป็นช่วงที่เหมาะกับการมาเที่ยวไต้หวันพอดิบพอดีเลย
ชอบมุมระเบียงนะคะ แต่ถ้าไม่มีต้นไม้มาบังวิวจะดีกว่านี้มากๆ เวลามองด้วยตาเปล่า
ไปดูด้วยตาตัวเองคือดีมากจริงๆ ค่ะ


มาดูดีเทลเล็กๆ น้อยๆ ในที่พักค่ะ
พอตกกลางคืน ตรงระเบียงแม่บ้านจะมาจุดเทียนให้ค่ะ น่ารักดี วันรุ่งขึ้นรัตน์มีจองสปาเอาไว้ด้วย แนะนำมากๆ สำหรับใครที่มาพักผ่อน จองแบบ 2 คนเอาไว้เลยค่ะ วิวดี นวดสบายไม่หนักมาก รัตน์นวดน้ำมันกลิ่นที่ให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย เรื่องนวดนี่แอบแตกต่างจากบ้านเรานะคะ วิธีนวด แต่วิวคือที่สุด
สปาของที่นี่ตั้งอยู่ชั้น 8 และชั้น 7 ค่ะ ล็อบบี้สปาจะอยู่ตรงทางเข้าอาคารที่พักเลย หลังจากที่คุยเรื่องแพ็คเกจเรียบร้อยก็เข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้ารอคิวของเราที่ห้องนี้ต่อค่ะ
วิวและแสงสวยมากจริงๆ แสงกำลังเข้าพอดีค่ะ ความจริงท้องฟ้าเป็นสีฟ้าเลยแต่แดดแรงไปหน่อยระหว่างรอคิว
ก็ดื่มชารอไปก่อน
น้องพนักงานนวดก็พาขึ้นมาที่ห้องนวดค่ะ เลือกน้ำมันอโรม่าแบบที่เราชอบกลิ่นต่างๆ
ก็สามารถช่วยในเรื่องที่แตกต่างกันไป
คือวิวในห้องดีมาก เรานอนหันหน้าออกไปทางทะเลสาบเพื่อชมวิวเลยค่ะ
คือที่พักสวยมากจริงๆ ไว้รอดูวีดีโอตัวเต็มๆ ได้นะคะ ในวีดีโอคือสวยปังกว่านี้มากๆ มัวแต่ถ่ายวีดีโอภาพนิ่งเลยไม่ค่อยมีเท่าไหร่แต่เอามาฝากตามนี้เลย
