รวมเด็ด 10 มาส์กหน้าสัญชาติไต้หวัน !! Taiwan Mask !! ช้อปด่วนก่อนตกเทรนด์

10885

รวมเด็ด 10 มาส์กหน้าสัญชาติไต้หวัน !! 
เลือกได้ตามงบประมาณ ไปไต้หวันต้องสอยกลับมา หรือจะกลับมาไทยแล้วเข้าร้าน Watson ซื้อก็ยังได้ !!

ไต้หวัน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเป้าหมายยอดฮิตมากๆ เลยก็ว่าได้ในตอนนี้ ในเว็บเราที่แนะนำเรื่องของฝากจากไต้หวัน มาส์กหน้าก็เป็นหนึ่งในนั้น อุตสาหกรรมมาส์กหน้าของไต้หวันนั้นถือได้ว่าค่อนข้างขับเคี่ยวกันอย่างมาก แต่ก็มีการแบ่งแยกหมวดหมู่กันได้อย่างชัดเจน เช่น ในเรื่องเพศ / วัย / สัดส่วน / ราคา เพราะที่ไต้หวันมีทั้งมาส์กหน้าที่ผลิตมาเพื่อคุณผู้ชาย และเพื่อผู้หญิง มีราคาตั้งแต่แผ่นละ 9 เหรียญจนถึงแผ่นละเป็นร้อยๆ ก็ว่าได้

วันนี้ขอแนะนำแบรนด์ที่น่าสอยกลับมา 10 ยี่ห้อ หาซื้อได้ง่าย ให้ลองตัดสินก่อนซื้อดังต่อไปนี้ค่ะ

My Beauty Diary แบรนด์ที่เป็นมิตรกับทุกคน มีสูตรออกมามากมายหลากหลายที่ใช้ได้กับทุกสภาพผิว มีโปรบ่อยๆ ใน Watson, Cosmed, Mirada และร้านอื่นๆ ที่บอกว่าเป็นมิตรเพราะว่า ราคไม่สูง เราสามารถซื่อกลับมาได้ง่ายๆ

แบรนด์นี้ชอบมีแพ็คเกจเป็นแพ็ครวมๆ กันหลายสูตร ลองแวะไปดูกันได้ ราคาไม่ถึง 1000 เหรียญค่ะ

หากใช้แล้วติดใจสามารถกลับมาซื้อต่อที่ไทยได้ตามร้าน Watson ค่ะ เพราะแบรนด์นี้ได้ถูกนำเข้ามาโดยบริษัท Uni President ประเทศไทยเรียบร้อย

ราคากล่องละ 255 NTD
ในกล่องมี 8 ชิ้น
สูตรแนะนำ ตามภาพเลยค่ะ Black pearl ให้หน้าขาวกะจ่างใส หรือสูตiไวน์แดง กระชับผิวและฟื้นฟูผิวจากมลภาวะต่างๆ

Sexy Look
แบรนด์นี้เราว่าเป็นอะไรที่น่าสนใจ เพราะเค้ามีแพ็คเกจที่ดูละม้ายคล้ายแบรนด์ญี่ปุ่นมากมาย ไปกี่ครั้งก็ต้องสะดุดตาก่อนเพื่อนเลย (ถ้าใครชอบอ่านการ์ตูนแบบเราอ่ะนะ)

สูตรก็มีเยอะตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นแบบผสมทอง 24K มาส์กยกกระชับหน้า ให้เป็น V Shape มาส์กส่วนบน (ส่วนล่างจะแยกชิ้นมาและเกี่ยวกับหูไว้) มาส์กยี่ห้อนี้ส่วนใหญ่เลยจะผลิตเป็นสีดำค่ะ และมีกลิ่นเฉพาะตัวสุดๆ

ราคากล่องละ 299-499 NTD (299 คือแบบสูตรปกติ แผ่นมาส์กสดำ)
ในกล่องมี 3-5 ชิ้น ตามแต่สูตร
สูตรแนะนำ แบรนด์นี้คุณภาพกลางๆ ค่ะ แนะนำให้ลองซื้อมาใช้ได้เลย จะสูตรไหนก็ลองตามที่ BA แนะนำได้เลย คุณสมบัติดีๆ เพียบ

我的心機 My Scheming
แบรนด์คุณภาพอีกแบรนด์ที่มีราคาน่าคบ ถ้าคุณเป็นแฟนคลับของแบรนด์ BD ที่เราแนะนำไปตอนแรกแล้วนั้น ลองซื้ออแบรนด์นี้กลับไปอีกค่ะ

สูตรคล้ายๆ กับแบรนด์ BD แต่ของแบรนด์นี้มีแยกมาส์กออกมาอีกเพียบ นอกเหนือจากที่หน้าแล้วนั้น ยังมีมาส์กโคลนสิวเสี้ยน, มาส์กหน้าเจ้าไข่ กุเดะทามะ, มาส์เท้า, มาส์กผสมทองคำ (ที่ไม่ใช่แผ่นมาส์กเป็นสีทอง แต่มีส่วนผสมของทองค่ะ)

ราคากล่องละ 299-499 NTD
ในกล่องมี 8-10 ชิ้น ตามแต่สูตร
สูตรแนะนำ 7-in-1 Brightening Essence , มาส์กเท้า , มาส์กสิวเสี้ยน

Beauty Buffet : 365 Daily Mask
แบรนด์นี้มีขายเฉพาะที่ Watson ค่ะ โดย
จะเห็นขายแยกออกมาเป็นแผ่นๆ แบบนี้ และแบบแพ็คใส่กล่อง สูตรมีหลากหลายมาก ตามแต่สภาพหน้าของแต่ละคน เช่นให้ผิวหน้ากระชับ กระจ่างใส ช่วยเรื่องผิวมัน ช่วยเรื่องมลภาวะต่างๆ (ทำไมคุ้นๆ จาก สูตรไม่แตกต่างกันซักเท่าไหร่) ส่วนผสมมาจากดอกไม้ และสารสกัดจากธรรมชาติ

เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีราคาเป็นมิตรกับน้องๆ วัยรุ่น นักศึกษาที่มีงบจำกัด

ราคากล่องละ 299 NTD ราคาในวัตสันปัจจุบันแผ่นละ 19 NTD
ในกล่องมี 10 ชิ้น ราคา
สูตรแนะนำ : ไม่มีค่ะ

L’HERBOFLORE

แบรนด์ที่คนไต้หวันก็ใช้กันเยอะ แถมหนังสือนิตยสารจากญี่ปุ่นก็รีวิวในคุณภาพที่ดี มีสูตรมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่เน้นจากธรรมชาติ โดยเฉพาะ ผลไม้ และดอกไม้นานาพันธุ์

ได้รับการการันตีจากผู้ใช้หลากหลายเสียงว่า ใช้แล้วไม่แพ้ หน้านุ่ม และมีความชุ่มชื้นสูง แบรนด์นี้เราได้ไปสอยมาเยอะอยู่เหมือนกันตามสภาพผิวหน้าของเราค่ะ ใช้ดีและนุ่มมาก

มีสูตรที่น่าสนใจดังนี้ค่ะ (ทุกสูตรมีกลิ่นตามชื่อสูตรเลยค่ะ)
-PearNourishingHydromask สูตรลูกแพรช่วยเรื่องบำรุงผิวและเพิ่มความชุ่มชื้น เหมาะกับผิวแห้ง
-CherryBlossomWhiteningMask สูตรดอกซากุระ ให้ผิวหน้ากระจ่างใส ช่วยให้ผิวขาว เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว
-MangoRevivingHy สูตรมะม่วง ซ่อมแซมและฟื้นบำรุงผิวที่เสีย เพิ่มความชุ่มชื้นให้อีกระดับ เหมาะกับผิวผสม และผิวแห้ง
-WatermelonVitalizingHydromask สูตรแตงโม ให้ผิวมีความชุ่มชื้นจากเหมือนกำลังทานแตงโมยังไงยังงั้น
– RoseWaterRefiningHydromask สูตรกุหลาบที่ช่วยเรื่องการบำรุงและพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว
– LycheeTranslucentHydromask สูตรลิ้นจี่ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
-AppleCWhiteningHydromask สูตรแอปเปิลมีวิตามินซีช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสและผิวแข็งแรง
-DeepSeaBalancingMask สูตรทะเลช่วยเรื่องปัญหาสิวและรอยสิว รอยแดงต่างๆ
-Camellia Nourishing Hydomask สูตรคาเมเลีย เหมาะสำหรับผิวแห้งโดยเฉพาะ เพราะช่วยในเรื่องความชุ่มชื้นค่ะ

มาส์กแบรนด์นี้ถ้าเห้นแต่ละสูตรแล้วส่วนใหญ่จะช่วยเรื่องความชุ่มชื้นให้แก่ผิว สำหรับผิวมัน สามารถใช้ได้เช่นกันค่ะ

ราคาแผ่นละ 50 NTD
สามารถหาซื้อได้ตามนี้ค่ะ
– Taipei 101 ชั้น B1
– Taipei Shinkong Mitsukoshi Xinyi A11 ชั้น 2
– Taipei Eslite Spectrum Xinyi Store B1
– Taipei Main Station Eslite Zone

OGUMA
แนะนำให้ซื้อสเปรย์น้ำแร่มาใช้ด้วยค่ะ
แบรนด์มาส์กหน้าที่ต้องซื้อกลับค่ะ คุณสมบัติดีมากๆ ในส่วนผสมคือ น้ำแร่ 100% ซึ่งน้ำแร่มีประจุไอออนสกัดจากแร่ธาตุใต้ทะเลลึก จากญี่ปุ่นเลยทีเดียวเชียว

มาส์กจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวค่ะ สร้างภูมิต้านทานเซล์ผิวหนังให้แข็งแรง รวมถึงขับของเสียและสารพิษออกจากผิวหนังออกไป ทำให้ผิวดีขึ้นและสุขภาพแข็งแรงชะลอการเสื่อมสภาพ สามารถใช้ได้กับทุกเพศทุกวั

ราคากล่องละ 227 NTD
ในกล่องมี 6 ชิ้น 

Dr.Morita 

แบรนด์ที่มีชื่อเหมือนญี่ปุ่น แต่จริงๆ แล้วเป็นแบรนด์ไต้หวันแท้ๆ เลยค่ะ แบรนด์นี้ราคาไม่ได้แพงมาก การันตียอดขายอันดับ 1 ของไต้หวัน และใช้วัตถุดิบคุณภาพสูง จึงทำให้คนติดใจในคุณภาพ ในสูตรมีส่วนผสมของ กรดไฮยาลูโรนิก ซึ่งมีส่วนช่วยในเรื่องของการรักษาริ้วรอย มีสูตรอะไรบ้างไปดูกันจ้ะ

Moisture Essence Facial Mask
– ช่วยในเรื่องความชุ่มชื้นเหมาะมากกับผิวแห้ง และใครที่อยากเร่งให้ผิวเปล่งประกายในตอนเช้า
Whitening Essence Facial Mask
– ช่วยให้หน้าขาวกระจ่างใส
Repair Essence Facial Mask
– ช่วยเรื่องฟื้นฟูสภาพผิวจากมลภาวะ เหมาะกับว่าที่เจ้าสาวที่ต้องการฟื้นฟูสภาพผิวแบบเร่งด่วน
Syn-Ake Essence Facial Mask
– ปรับสภาพผิวให้กระชับ เพื่อให้หน้าเป็น V Shape อย่างที่ตั้งใจ (ก็ไม่รู้ว่าต้องมาส์กกี่แผ่นถึงจะ V ได้อย่างใจต้องการ)

ราคาเริ่มต้นกล่องละ 490 NTD
ในกล่องมี 5-10 แผ่น ขึ้นอยู่กับขนาดและสูตร

TuTu & Bow 

แบรนด์น้องใหม่ที่มาพร้อมกับคุณภาพ และส่วนผสมชั้นเยี่ยม โดยมีสารสกัดจาก แมงกระพรุนที่ไม่มีวันตาย ทำให้หน้าเรามีส่วนแทรกซึมจากสารสกัดนี้ ช่วยให้หน้าชุ่มชื้นอีกด้วยค่ะ หน้าจะได้เด้ง ดูเด็กกันตลอด ใช้สารสกัดจากธรรมชาติล้วนๆ

ราคามาส์กหน้าค่อนข้างสูง
ในกล่องมี 12 ชิ้น
กล่องละ 1,500 NTD (1 ชิ้นราคา 150 NTD)
สามารถหาซื้อได้ที่ร้านสาขาถนน Xinyi โดยนั่งรถไฟฟ้าลงสถานี Dongmen ออกทางออก 5 และเดินย้อนกลับมาด้านหลัง จะเจอร้าน Tutu & Bow ตกแต่งน่ารักสวยงามสไตล์เจ้าหญิงค่ะ

TT Mask 

แบรนด์ที่เราขอแนะนำมากจริงๆ เพราะคุณภาพมาส์กดีมากๆ พร้อมสารสกัดจากธรรมชาติมากมายให้คุณเลือกซื้อ เหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัย ซึ่งมีซีรีย์อยู่หลายซีรีย์ค่ะ ความพิเศษอยู่ที่เนื้อมาส์กมีหลากหลายแบบ แต่แบบ Bio Cellulose คือดีสุดในซีรีย์ค่ะ ล่าสุดมีออกตัวเนื้อมาส์กแบบ ผ้าคอตอนออกมาค่ะ

แบรนด์นี้เป็นแบรนด์เดียวของไต้หวันที่ผ่านมาตรฐานและคุณภาพจากประเทศฝรั่งเศส และค่อนข้างเป็นที่นิยมในฝรั่งเศสเช่นกัน พอเข้าไทยมาก็มีหลายต่อหลายคนชื่นชอบและซื้อใช้อย่างต่อเนื่อง

แนะนำสำหรับสาวออฟฟิศ – ผู้ใหญ่
สูตรแนะนำมี 2 สูตรค่ะ
1. Bio Cellulose Bee Venom – สูตร Royal Jelly Miracle Mask เป็นมาส์กที่กระตุ้นให้หน้าของเราผลิตคอลลาเจนออกมาเพิ่มขึ้น ทำให้ใบหน้าเปล่งปลั่ง ช่วยฟื้นฟูใบหน้าแบบเร่งด่วนสุดๆ
2. Apple Collagen – สูตรแอ็บเปิ้ลคอลลาเจน เราชอตัวนี้เป็นพิเศษเพราะว่าทำให้หน้านิ่มมากๆ เพราะสูตรที่สกัดจากแอ๊ปเปิ้ลจากสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งเป็นชนิดหนึ่งที่อัตราการเน่าสลายช้าค่ะ ทำให้รู้สึกเหมือนเราเป็นสโนไวท์ยังไงยังงั้นมีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูสภาพผิวให้ผิวของให้เปล่งปลั่งกระจ่างใส คงความอ่อนเยาว์ ทั้งยังให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นน่าสัมผัสแนะนำสำหรับเจ้าสาวที่ต้องแต่งหน้าและเตรียมพร้อมสำหรับวันสำคัญ วันรับปริญญาก็ได้ค่ะ

เส้นใยไบโอเซลลูโลสเป็นมาส์กที่ผลิตจากเส้นใยธรรมชาติ
ซึ่งละเอียดกว่าเส้นใยจากกระดาษหรือผ้ามาก!
ซึ่งจะมีคุณสมบัติดูดซับเซรั่มบำรุงผิวหน้าไว้ได้มาก
และเมื่อนำมาใช้ เซรั่มก็จะระเหยออกช้ากว่า ทำให้มีช่วงเวลาการบำรุงผิวหน้าได้ยาวนานกว่ามาส์กปกติ

หาซื้อได้ที่ Gourmet Markets (สาขา SiamParagon, Emquartier) และ HomeFresh Marts ที่ห้างสรรพสินค้า The Mall

DR.WU


เชื่อว่าหลายๆ คนคงเคยเห็นแบรนด์นี้ตาม Watson และร้าน Cosmed นะคะ เพราะแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในด้านคุณภาพ และอาจจะต้องลงทุนเก็บเงินกันหน่อยหากอย่างจะลองใช้แบรนด์นี้ ถึงแม้แบรนด์จะพยายามทำมาส์กออกมาในรูปแบบกล่องเล็ก ดูราคาไม่แพงมาก แต่ในกล่องมีมาส์กอยู่ 3 แผ่นให้เราใช้ค่ะ ดังนั้นต้องคิดให้หนักเลยว่าจะเก็บมาส์กแผ่นนี้เอาไว้ใช้ในงานสำคัญงานไหนความสำคัญอยู่ที่ส่วนผสมและแผ่นมาส์กซึ่งมีแบบ BIO-CELLULOSE (เหมือน TT) และสารสกัดจาก hyaluronic acid สารสกัดที่ช่วยเรื่องฟื้นฟูริ้วรอย ให้ผิวคุณดีขึ้น ราคากล่อง 600-1,000 NTD ในกล่องมี 3 แผ่น
หาซื้อได้ตามร้าน Watson , Cosmed และร้านขายยาชั้นนำทั่วเกาะไต้หวันค่ะ

ถึงแม้แต่ละแบรนด์จะออกมาต่อสู้กันในชั้นวางของ แต่ถึงกระนั้นแล้ว ก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไปให้ลูกค้าได้เลือกตามที่ชอบและงบในกระเป๋าจ้ะ เอาล่ะเรามาดูกันค่ะว่าแต่ละเจ้าหน้าตาเป็นยังไงและราคาเท่าไหร่บ้าง ตามกันมาได้เลยจ้า