เที่ยว Romania ดินแดนยุโรปตะวันออกที่มีเสน่ห์
ควรค่าแก่การเดินทาง
เมื่อพูดถึงยุโรปหลายๆ คนอาจจะนึกถึงฝรั่งเศส อิตาลี หรือเนเธอร์แลนด์ น้อยมากที่จะได้ยินใครพูดถึงโรมาเนียค่ะ การเดินทางไปยุโรปครั้งแรกของรัตน์ เริ่มต้นที่ เที่ยว Romania แปลกไม่เหมือนใครกันไปเลย นึกถึงโรมาเนียหลายคนคงต้องนึกถึง แดรกคิวล่ากันแน่นอน ก่อนจะไปรัตน์ก็มีแต่แดรกคิวล่าถ้านึกถึงที่นี่ค่ะ
ครั้งนี้รัตน์ไปเจอเพื่อนที่นู่น มีคนพาเที่ยว ทำให้ตกหลุมรักทั้งผู้คน สภาพภูมิประเทศกันไปทีเดียว ที่นี่เค้าให้ความรู้สึกเหมือนตอนรัตน์เริ่มเดินทางไปเที่ยวไต้หวันค่ะ ประเทศที่ไม่ค่อยมีคนนึกถึง แต่มีอะไรให้เราไปสัมผัสเยอะมากๆ ก่อนอื่นเรามารู้จักโรมาเนียกันก่อนค่ะ
- เกี่ยวกับ Romania
- การขอวีซ่า 2024
- วิธีการเดินทาง
- เมืองที่ไปเที่ยว
- Sibiu
- Brasov
- Cruj
โรมาเนีย Romania
โรมาเนียเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ เป็นที่รู้จักในดินแดนผืนป่าแห่ง Transylvania ค่ะ ชื่อคุ้นๆ เหมือนหนังอนิเมชั่นเรื่อง Transylvania เลยใช่มั้ยล่ะคะ มีภูเขาในประเทศนี้เยอะมากๆ มีทั้งปราสาทและโบสถ์มากมายให้เราไปเยี่ยมชม โดยปราสาทที่โด่งดังของโรมาเนียเลย Bran Castle เป็นจุดเริ่มต้นของตำนานผีดูดเลือดที่เลื่องชื่อไปทั่วโลกอย่างท่านเคาท์ Dracula ค่ะ สำหรับเมืองหลวงของโรมาเนียคือเมือง Bucharest (บูคาเรส) หรือฉายาของเมืองนี้คือปารีสตะวันออกค่ะ
ภาษาหลักที่ใช้คือ ภาษาโรมาเนียนค่ะ และมีการใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว ศาสนาที่มีคือ คริสเตียนออโธดอกซ์ Orthodox และคริสเตียนคาทอลิก สามารถเห็นโบสถ์ของ 2 นิกายได้ตามทางเวลาเดินทางในโรมาเนียค่ะ สำหรับโอธอด็อกจะมีลักษณะหลังคาเป็นโดมทรงกลมโดยส่วนใหญ่ค่ะ ส่วนนิกายคาทอลิกจะมีความโกธิค หลังคาทรงแหลม
โรมาเนียเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในแถบยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ และใหญ่เป็นอันดับที่ 12 ในยุโรป โดยมีความกว้าง 238,397 Sqกิโลเมตร ภูมิประเทศเป็นภูเขา ทิวเขาและที่ราบค่ะ มีฤดูด้วยกันทั้งหมด 4 ฤดู เหมาะกับการไปเที่ยวมากมาย มีทั้งฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาวค่ะ ช่วงฤดูหนาวมีหิมะตก มีสกีรีสอร์ทและกิจกรรมเกี่ยวกับหิมะมากมาย รวมถึงการแข่งขันต่างๆ
สกุลเงินของโรมาเนียใช้ Lei ค่ะที่จะเห็นเขียนกันตามที่ต่างๆ แต่ถ้าค้นหาบนอินเตอร์เน็ตก็กดเป็น Romanian Leu ก็ได้ค่ะเหมือนกัน 1 Lei ประมาณ 7.96 บาทค่ะ รัตน์แลกเงินยูโรจากไทยไปค่ะแล้วค่อยไปแลกเป็นค่าเงิน Lei ที่โรมาเนีย
เพราะที่ไทยซุปเปอร์ริชไม่มีค่ะ
การขอวีซ่าไปเที่ยว Romania
ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2024 เป็นต้นไป สามารถเดินทางเข้าโรมาเนียได้โดยใช้วีซ่าเชงเก้น Schengen ค่ะ โดยสามารถอยู่ได้ 90 วันค่ะ ช่วงที่รัตน์เดินทางไปยังอยู่ในระยะต้องยื่นขอวีซ่าค่ะ ข่าวต้นทาง https://www.mae.ro/en/node/2035
ค่าทำวีซ่าท่องเที่ยวที่ยื่นมา 2,840 บาท
วิธีการเดินทาง
เคยอ่านเจอว่า หากต้องการประหยัดค่าตั๋วเครื่องบินให้ถูกลงมาอีกนิดสามารถจองตั่วต้นทางที่มาเลเซีย บินต่อเครื่องที่ดูไบและต่อไปที่บูคาเรส รอบนี้รัตน์ขอเอาแบบง่ายๆ ละกันค่ะ เพิ่มค่าตั๋วเครื่องบินมาหน่อย T v T รัตน์เดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิโดยสายการบิน Qatar Airways เลือกจองทีถูกที่สุด โดยต้องไปรอต่อเครื่อง 22 ชั่วโมงที่โดฮา จากสนามบินสุวรรณภูมิไปที่กาตาร์ใช้เวลา 6 ชม. 30 นาที และจากกาตาร์ไปโรมาเนียเมืองบูคาเรสใช้เวลาอีก 4 ชม. 30 นาที และรัตน์ยังนั่งเครื่องต่ออีกไปที่เมือง Cluj ค่ะ เพราะเราจะไม่ได้เที่ยวที่เมืองบูคาเรส แต่ไปอีกที่นั่งเครื่องบินสายการบิน Tamron สายการบินของโรมาเนียอยู่ใน Sky Team ด้วยค่ะ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดสำหรับตั๋วเครื่องบิน
Qatar Airlines ไป-กลับ : 36,715 บาท
Tamron ไป-กลับ : 9,560.13 บาท
รวม 46,275.13 บาท
และก่อนไปก็เตรียมตัวจอง eSIM สำหรับเที่ยวในยุโรปกับ KKDay ไว้ค่ะ โดยจองไว้ 14 วัน สามารถเปิดใช้ได้เมื่อถึงยุโรปแล้วเท่านั้น กรณีของรัตน์คือเปิดตอนถึงสนามบินที่บูคาเรสค่ะ เปิดใช้งานง่ายมากๆ ไม่ต้องใช้ซิมการ์ดแบบของจริงก็ใช้างนได้ ข้อมูลต่อวันใช้ได้ 5GB โดยระหว่างเที่ยว Romania รัตน์เปิดใช้เครือข่าย Orange Romania ค่ะ ราคา 764 บาท กดจองได้เลย ที่นี่
เมืองที่ไปเที่ยว
View this post on Instagram
ครั้งนี้รัตน์มีโอกาสเที่ยวอยู่ 3 เมืองด้วยกัน อาจจะไม่ใช่เมืองหลักแต่ก็เป็นเมืองที่น่าสนใจสำหรับใครที่เป็นสายธรรมชาติ และชอบในเรื่องวัฒนธรรมค่ะเมืองแรกที่รัตน์ไปคือ Sibiu ต่อมาที่ได้ไปเที่ยวคือเมือง Brasov และแวะที่เมือง Cluj นิดนึงก่อนขึ้นเครื่องกลับค่ะ
Sibiu
เมืองที่รัตน์มีโอกาสได้มาอยู่นานที่สุด อยู่ภาคกลางของโรมาเนียค่ะ เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อในเรื่องเมืองเก่า สำหรับรัตน์ที่นี่คล้ายๆ กับไถหนานของไต้หวัน และสุโขทัยของประเทศไทยค่ะ มีกิจกรรมให้ทำมากมาย เป็นเมืองเล็กไม่ใหญ่มากแต่มีเสน่ห์มากสำหรับรัตน์ค่ะ ได้รับการขึ้นชื่อให้เป็นเมืองศูนย์การของวัฒนธรรมยุโรปในปี 2007 ในปี 2019 เมือง Sibiu ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมือง European Region of Gastronomy อีกด้วยค่ะ ความโด่งดังสำหรับเมืองนี้ก็คือช่วงเทศกาลคริสมาสที่ลานใหญ่ของเมืองจะมีจัด Christmas Market ที่สวยงามใครมาเที่ยวช่วงคริสมาสก็มีโอกาสได้เดินชมความงามของเทศกาลนี้ค่ะ สำหรับใครที่อยากมาเที่ยวที่นี่ก็มีหลากหลายวิธีจากเมืองบูคาเรสค่ะ
1. โดยรถไฟ โดยใช้เวลาเดินทาง 5 ชม. นั่งยาวๆ มาได้เลย
2. โดยรถบัส ระยะเวลาเดินทางไม่ต่างกันมาก นั่งยาวๆ มาเช่นกัน
3. โดยรถส่วนตัว ระยะเวลาเดินทาง 4 ชม.
ดังนั้นรัตน์เลยใช้วิธีการนั่งเครื่องบินต่อไปที่เมือง Cluj หลังจากลงเครื่องที่เมืองบูคาเรส โดยใช้เวลาเดินทาง 50 นาทีโดยเครื่องบินจากบูคาเรสไปที่เมือง Cluj และรถส่วนตัวจาก Cluj ไปที่เมือง ซิบิว Sibiu อีก 2 ชั่วโมงค่ะ ทริปนี้ใช้เวลาเดินทางกว่าจะไปถึงที่หมายเหงื่อแทบตกเลยทีเดียว แต่ไม่เป็นไรเรายังไหวค่ะ
อยู่เมืองนี้กิจกรรมที่ได้ทำคือ ขี่ม้าในภูเขา ไปเดินเขา ทั้งสองอย่างคือสนุกมาก เดินแกลเลอรี่และได้ลองอาหารพื้นเมือง ฟินมาก อ่ะมาดูกันค่ะว่าเมืองนี้มีอะไรให้เที่ยวกันบ้างที่รัตน์ได้ไปมาค่ะ
The Large Square: Piata Mare
สามารถอ้างอิงจากแผนที่เมืองข้างบนได้เลยนะคะ ตรงนี้เป็นศูนย์กลางของเมืองค่ะ เป็นลานกว้างที่เวลาไปยืนอยู่ตรงนั้นจะรู้สึกเหมือนมตาจ้องมองเราตลอดเวลา เพราะหลังคาเหมือนดวงตาเลยทีเดียว ตามอาคารก็จะเป็นร้านรวงต่างๆ ทั้งร้านอาหาร ที่พัก รวมถึงพิพิธภัณฑ์ก็อยู่ตรงลานนี้ด้วยค่ะ ผู้คนที่นี่ช่วงวันศุกร์ วันเสาร์ก็จะมาแฮงค์เอาท์กันบริเวณนี้ พวกร้านดื่มก็อยู่แถบนี้และเชื่อมไปถึงลานเล็กค่ะ ช่วงคริสมาสที่ลานนี้จะมีจัด Christmas Market ที่เป็นงานที่มีชื่อเสียงของเมืองนี้ค่ะ รัตน์ชอบมานั่งดูผู้คนที่ลานนี้ เด็กๆ ผู้คนพาลูกเล็ก และสัตว์เลี้ยงมาเดินเล่นมีนกพิราบเจ้าถิ่นอยู่ตรงกลางบินไปบินมาค่ะ
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/GRGURyW67BC5yFpU8
Piata Mica
ลานเล็กที่เต็มไปด้วยร้านรวงเหมือนกัน เชื่อมต่อจากลานใหญ่ สามารถมองเห็น The Liar Bridge ได้ค่ะ และเดินไปที่โบสถ์ Saint Mary ได้ด้วยค่ะตามอาคารเป็นร้านรวงต่างๆ ในสมัยโบราณที่เมืองนี้มีการแบ่งช่างฝีมือออกเป็น Guild ต่างๆ ค่ะ ทั้งช่างฝีมือเรื่องการแร่เนื้อ ช่างฝีมือการทอผ้า ตัวอาคารก็มีชื่อของเจ้าของตึกเดิมที่จะไม่เปลี่ยนชื่อของตึกเอาไว้ด้วย เวลานัดกัน คนที่นี่เค้าก็จะนัดเจอกันตามชื่ออาคารของแต่ละตึกค่ะ
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/UBMDGrcxJDKwK9gv8
Turnul Sfatului
หอคอยชมเมือง ที่เราสามารถชมได้ทั้งภูเขา ลานใหญ่และลานเล็กได้จากมุมมอง ชมได้ 4 กันไปเลยค่ะ ที่นี่เปิดทุกวันเวลา 10.00 AM – 7.10 PM
พิกัด :https://maps.app.goo.gl/RPJjef4SEqdGqndV8
“Saint Mary” Evangelical Cathedral
โบสถ์สไตล์โกธิคที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมือง Sibiu มีความสูงถึง 73.34 เมตร เวลามองจากมุมบนก็จะเห็นที่นี่ก่อนเป็นที่แรกๆ เลยค่ะ เด่นมากๆ ซึ่งที่นี่ก็มีประวัติเยอะเหมือนกัน โบสถ์ที่นี่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14 เป็นโบสถ์คาโธลิค มีหอคอยที่สามารถปีนขึ้นไปชมเมืองได้ด้วยนะคะ รัตน์มีโอกาสปีนขึ้นไปเหมือนกันค่ะ นอกเหนือจากวิว และความสวยงามของสถาปัตยกรรมแล้วที่นี่ยังมี Organ ที่ใหญ่ที่สุดของยุโรปตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วยค่ะ ค่าเข้าชมโบสถ์อยู่ที่ 10 Liu และหากต้องการปีนขึ้นไปบนหอคอยค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีก 5 Liu ค่ะ
เวลาเปิด-ปิด
วันจันทร์ – พฤหัสบดี : 10AM – 6PM
วันศุกร์ : 12PM – 8PM
วันเสาร์ : 10AM – 8PM
วันอาทิตย์ : 11:30AM – 6PM
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/vmhBiSvdB8fFRrE46
Muzeul National Bruknthal
พิพิธภัณฑ์ที่เรียกได้ว่าเป็นที่รวบรวมผลงานทางศิลปะที่ดีที่สุดใน Romania ค่ะ ตัวอาคารมีทั้งหมด 3 ชั้น โดยแต่ละชั้นจะมีการจัดแสดงผลงานศิลปะตามธีมต่างๆ ชั้น 2 เป็นงานภาพวาดบุคคลสำคัญในสมัยก่อน เรื่องราวประวัติศาสตร์ของที่นี่ ชั้น 3 จะเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมต่างๆ ของเมืองค่ะ มีทั้งชุดที่ขุนนางใส่ในสมัยก่อน หนังสือของล้ำค่า เรื่องราวเกี่ยวกับเทพเจ้า ตำนานปรมปรากรีก โรมัน การเดินเป็นการเดินแบบสี่เหลี่ยมวนตัวอาคารค่ะ รัตน์ใช้เวลาอยู่ที่นี่เป็นชม. เลยค่อยๆ ดูทีละโซน แอบเดินงงๆ อยู่เหมือนกัน ส่วนชั้น 1 ของอาคารด้านหลังจะมีจัดนิทรรศการต่างๆ วนเวียนกันไปเรื่อยๆ ค่ะ ช่วงที่รัตน์ไปมีงานนิทรรศการเกี่ยวกับซามูไรญี่ปุ่นด้วย
เดิมทีก่อนที่จะมาเป็นพิพิธภัณฑ์ที่นี่เป็นปราสาทมาก่อนนะคะ ดังนั้นเรามาเที่ยวได้ทั้งปราสาทและเที่ยวพิพิธภัณฑ์ศิลปะกันไปเลยทีเดียว
ค่าเข้าชมราคา 119.45 บาท
ภาพนี้เป็นภาพที่รัตน์ชอบที่สุดค่ะเพราะเหมือนเราได้ย้อนเวลากลับไปที่เมือง Sibiu
ในสมัยก่อนเลยค่ะ
ผลงานต่างๆ ก็สวยงามมากมาย เดินเพลินมากค่ะที่นี่
นอกจากจะมีผลงานศิลปะแล้ว ก็ยังมีโชว์เครื่องใช้ต่างๆ ในสมัยโบราณอีกด้วย
ดูเพลินไปเลยห้องจัดแสดงก็จัดแสดงสวยงาม สามารถถ่ายรูปมุมไหนก็ได้ ขอแค่อย่าจับผลงานก็พอค่ะ
ชุดหญิงสูงศักดิ์ในสมัยก่อนค่ะ ส่วนตัวชอบทั้งสองชุดเลยล่ะ
ไปเดินคนเดียวก็จะต้องวานให้พนักงานที่นั่นช่วยถ่ายรูปให้ซักหน่อย ห้องนี้เป็นห้องที่แสดงเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคนสมัยก่อนกับสุนัขและสัตว์ต่างๆ ค่ะ
เวลาเปิด-ปิด
เปิดวันพุธ-วันอาทิตย์ เวลา 10AM-6PM
ไม่แนะนำให้ไปช่วงเวลาก่อนปิด 1 นะคะ เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่คุ้ม
ค่อยมาใหม่จะได้เดินทั่วๆ
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/DpcCKR9UsfGMvFFL7
The Bridge of Lies
มีตำนานเล่าเกี่ยวกับสะพานแห่งนี้เยอะมากๆ ค่ะ ตามชื่อเลยก็มีเช่น การพิสูจน์ว่าใครเป็นคนโกหกให้ไปยืนบนสะพาน สะพานจะพังลงมา ความแปลกคือถึงแม้สะพานจะชื่อว่าสะพานแห่งการโกหก แต่ก็มีคนเอากุญแจมาคล้องสไตล์เดียวกับที่เกาหลีค่ะ ทางเมืองก็ต้องมาคอยตัดทิ้งออกไป สำหรับสะพานนี้ตามประวัติศาสตร์คือเป็นสะพานที่เชื่อมต่อไปอีกฝั่งของเมืองค่ะ โดยแต่ก่อนตัวเมืองนั้นเริ่มต้นที่โบสถ์ Saint Mary ค่ะล้อมเมืองมาเล็กน้อย แต่ไม่มีข้ามไปที่อีกฝั่งของตัวเมือง เลยสร้างสะพานนี้ขึ้นมาค่ะ
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/nJyp2TkP1HRduaH27
“Saint Michael” Fortified Church
โบสถ์ที่มีอายุ 800 ปีแห่งนี้ตั้งอยู่ข้างบนภูเขาค่ะ เป็นหนึ่งในอนุสรณ์สถานที่เก่าแก่ที่สุดในทรานซิลเวเนีย สร้างขึ้นในสไตล์ Romanesque ในสมัยก่อนที่นี่เป็นของสำนักสงฆ์ Saxon ของเมืองซิบิว สร้างขึ้นในปี 1188-1191 ซึ่งเราต้องปีนขึ้นเขามานิดนึงค่ะ (แอบเหนื่อยเล็กน้อย) ออกจากเมืองซิบิวมาเล็กน้อยประมาณ 6 กิโลเมตรก็จะถึงที่นี่ค่ะ อยู่ที่เมือง Cisnadioara
ลักษณะพิเศษคือโบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นจากหินจากแม่น้ำและแผ่นไม้ มีพลับพลาทรงสี่เหลี่ยมและมุขหลกและด้านข้าง ส่วนหน้าอาคารด้านตะวันตกมีประตูทางเข้าสวยงามค่ะ ใครที่ชอบธรรมชาติสวยงามพร้อมประวัติศาสตร์แล้วล่ะก็ที่นี่ต้องเป็นหนึ่งในสถานที่ต้องแวะมากันนะคะ ได้ออกกำลังกายเล็กน้อยด้วยล่ะ
วันเวลาเปิด-ปิด
เปิดทุกวัน 10AM – 6PM
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/oSErRtRhkgQvAfVR7
มุมมองจากกำแพงปราสาทค่ะนี่ขึ้นมาข้างบนแบบนี้ได้เก่งมากเลย(ชมตัวเอง)และมุมมองจากการเดินขึ้นมาค่ะมีวิวเมืองเล็กๆให้ชมด้วย
Casuta MGS Hiking Trail ภูเขา Cindrelului
อีกหนึ่งกิจกรรรมที่ได้ไปทำแบบปุบปับมากคือไป Hiking ค่ะ ดีใจมาก เพราะไปที่ไต้หวันมาเหมือนกันแต่ไม่ได้สูงแบบนี้มาก่อน โดยรัตน์เดินขึ้นเขาใช้เวลา 2 ชม. (แบบทุลักทเลมาก) และลงเขาอีก 2 ชม. ค่ะ ด้านบนภูเขาช่วงที่รัตน์ไปมีกิจกรรมข้างบนด้วยนะคะ โดยมีการทำ Balmos จากหม้อต้มเดือดๆ แบบดั้งเดิม เป็นข้าวโพดต้มลงไปในหม้อต้มแบบดั้งเดิม ปั้นและทำการอบกับหินร้อน ราดด้วยชีสค่ะ รวมถึงมีซุปผักอร่อยๆ และเครื่องดื่มด้วยอร่อยมากค่ะ หลังจากปีนเขาก็ไปขี่ม้าซึ่งคนนำขบวนเค้าจะพาเข้าไปในเขาเลยค่ะ เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ ครั้งหนึ่งเลย ขี่ไปเลย 2 ชม. ฟินสุด
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/iSsMM28yT3a7HsEa8
สุดลูกหูลูกตามากๆ ค่ะ สวยมีน้องม้าสีขาวด้วยน่ารัก
Balmos ค่ะทำกันสดๆ ไปเลย
Astra National Museum Complex
พิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปจัดแสดงบ้านในสมัยก่อนของคนพื้นถิ่นที่นี่ค่ะ โดยที่นี่อนุรักษ์ความเป็นจิตวิญญาณของชาวโรมาเนียดั้งเดิมเอาไว้ที่นี้ค่ะ พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ที่พื้นที่ป่าคุ้มครอง “Dumbrava Sibiului” บนพื้นที่กว่า 96 เฮกเตอร์ เพื่อให้ผู้เยี่ยมชมได้มาเห็นภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชาวโรมาเนียในชนบททั่วประเทศผ่านบ้านดั้งเดิมกว่า 400 หลังในอาณาเขตขอพิพิธภัณฑ์ค่ะ คุ้มค่ากับการมาจริงๆ มีการแสดงให้เห็นในสมัยก่อนมีทำงานอะไรมาก่อนบ้าง เช่น การทอผ้า เรื่องเกี่ยวกับความตาย
บัตรราคา 278.72 บาท
วันเวลาเปิด-ปิด
วันจันทร์-ศุกร์ 8AM – 8PM
วันเสาร์ปิดทำการ
วันอาทิตย์ 11AM – 8 PM
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/ZuAPt49aymygamBYA
บ้านเป็นสีฟ้าน้ำเงินในสมัยก่อนมีการใช้สีฟ้าอย่างแพร่หลายเพราะมีราคาประหยัด
เมืองนี้เป็นเมืองที่บอกเลยว่าเหมือนได้มาเที่ยวไต้หวันเลยค่ะอยู่ไทเป แต่เป็นตึกบ้านเรือนเล็กๆ มองไปทางไหนก็เจอภูเขา และภูเขาบางโซนก็เห็นหิมะด้วย เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นหิมะเลยก็ว่าได้ค่ะ ลักษณะพิเศษของเมืองนี้เลยคือตัวอาคารที่เหมือนมีดวงตาอยู่บนหลังคา เป็นเมืองเดียวในโรมาเนียที่จะเจอแบบนี้นะคะ เรียกได้ว่ามีความพิเศษมากๆ แต่เค้ามีประวัตินะไม่ใช่ว่าอยู่ๆ ทำไมมีตาอยู่ตรงนั้น
โดยปกติแล้วเวลาจะสร้างห้องเก็บของ เราจะเห็นอย่างแพร่หลายว่ามีการสร้างห้องเก็บของไว้ใต้ดินค่ะ แต่สำหรับที่เมือง Sibiu ที่มีลักษณะภูมิประเทศที่พื้นใต้ดินเป็นน้ำ เลยทำให้มีการออกแบบบ้านเรือนให้ยกเพดานสูงขึ้นทำเป็นอีกห้องไว้สำหรับเก็บของด้านบน แทนที่จะอยู่ชั้นใต้ดินแทนค่ะ ส่วนดวงตานั้นก็เป็นช่องระบายอากาศค่ะ เลยทำให้บ้านเรือนที่เมือง Sibiu มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวค่ะ
Brasov
เมืองเล็กๆ น่ารักอีกเมืองอยู่ฝั่งตะวันออกของเมือง Sibiu ค่ะ เป็นที่ตั้งของ Black Church เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิคที่ใหญ่ที่สุดในโรมาเนียค่ะ ที่ชื่อว่าโบสถ์ดำเป็นเพราะว่า กำแพงด้านนอกเป็นสีคล้ำ ซึ่งเกิดจากเพลิงไหม้ครั้งใหญ่เมื่อปี 1689 ก่อนที่จะมาถึงเมืองนี้รัตน์แวะที่ Bran ก่อนค่ะ ซึ่งเป็นที่ตั้งอยู่ปราสาทแดรกคิวล่าอย่าง Bran Castle ค่ะ และแวะพักที่ Poiana Brasov ตอนเช้าขึ้นกระเช้าไปชมหิมะค่ะ
Bran Castle
Bran Castle สร้างขึ้นเมื่อช่วงปี 1377 และ 1382 ด้วยเหตุผลทางเศรฐกิจและยุทธศาสตร์ ทางการเมืองในยุคน้นค่ะ โดยใช้เป็นป้อมปราการเพื่อป้องกันผู้บุกรุกสำหรับเมืองข้างเคียง ในปี 1920 สภาเมือง Brasov ได้มอบปราสาท Bran ให้แก่สมเด็จพระราชินีมารี โดยปัจจุบันนี้ปราสาทแห่งนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงงานศิลปะและเครื่องเรือนที่รวบรวมโดยสมเด็จพระราชินีมารีโดยเฉพาะ ด้านในสามารถเดินชมได้ด้วยตัวเองโดยมีภาษาอังกฤษกำกับอยู่ตลอดเวลาการเดินชมค่ะ รวมถึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่รู้จักในนามปราสาทแดร็กคูล่าค่ะ ซึ่งตัวละคร Dracula ปรากฏในนิยายของนักเขียนชาวไอริชอย่าง Bram Stoker โดยอาจจะได้รับแรงบรรดาลใจมาจาก เจ้าชาย Vlad Tepes ที่มีชื่อเสียงในเรื่องความโหดเหี้ยมในการลงโทษต่างๆ ณ วันนี้ปราสาท Bran ไม่เพียงแต่จะมีแค่เรื่องของแดร็กคิวล่านะคะ ยังมีนิยายปรัมปราเรื่องอื่นของโรมาเนียอีกด้วยอย่าง Strigoi, Moroi, Lele, MumaPadurii
ค่าเข้าชม 70Lei (ประมาณ 438 บาท) สามารถซื้อตั๋วได้ที่ตู้อัตโนมัติด้านหน้า
เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา 9AM – 6PM
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/dcNLj8a3vkdhfXAc8
Brasov : Piata Sfatului
ช่วงบ่ายหลังจากเล่นหิมะก็ลงมาที่เมือง Brasov ค่ะ มาชมเมืองอื่นบ้างนอกจากที่ Sibiu เป็นอีกเมืองที่เล็กน่ารักมีร้านรวงเยอะเหมือนกัน ทั้งคาเฟ่ ร้านอาหาร และพิพิธภัณฑ์พร้อมวิวภูเขา ตรงกลางลานเป็นสแควร์ให้คนมาเดินเล่นกันพร้อมฝูงนกพิราบเจ้าถิ่นบินไปมาให้วิวที่สวยงามค่ะ ถือเป็นเมืองน่ารักก่อนที่จะนั่งรถกลับไปยัง Sibiu ค่ะ
Cluj
เมืองสุดท้ายก่อนรัตน์จะบินกลับไทยค่ะ จริงๆ เป็นเมืองที่ 2 ที่มาถึงถัดจากบูคาเรสก็ว่าได้ แต่มาเพื่อพักแล้วไปต่อเลยไม่ได้เที่ยวอะไรมากค่ะ ที่นี่เป็นเมืองมหาวิทยาลัยค่ะ แล้วก็มีลานกว้าง มีความใหญ่กว่า Sibiu และ Bucharest ดูมีความเป็นเมืองมีความรถราง รถบัสเข้ามา มีร้านรวงเยอะ แต่ส่วนตัวรัตน์ชอบความเล็กๆ น่ารักอย่าง Sibiu มากกว่าค่ะ เหมือนไต้หวันรัตน์ก็ชอบเมืองไถหนานมากกว่าไทเปค่ะ ชอบเที่ยวแนววัฒนธรรม ประวัติศาสตร์มากกว่าแต่เมืองนี้ก็สวยเหมือนกันนะคะเรามาชมภาพบรรยากาศกันเลยดีกว่า พิกัด :https://maps.app.goo.gl/vNratyqLFsP58RLWA
และมีที่นึงที่เราไปไม่ทันเวลาเค้าปิดค่ะ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจมาก เสียดายที่ไม่ได้เข้าไปชมค่ะ แต่ได้วิวสวยๆ รอบๆที่นี่มาแทน รายละเอียดด้านล่างเลยค่ะ
View this post on Instagram
Salina Turda เป็นเหมืองเกลือใต้ดินที่สวยที่สุดในโลกสร้างโดยมนุษย์ค่ะ ด้านล่างกว้างใหญ่มาก โดยเหมืองเกลือนี้ได้ขุดลงไปในเกลือที่สะสมหลังจากการระเหยของทะเลซึ่งปกคลุมทั่วทั้งภูมิภาคเมื่อหลายล้านปีก่อน ปัจจุบัน เกลือจากเหมืองเกลือทูร์ดาสามารถครอบคลุมความต้องการเกลือสำหรับทั้งโลกได้เป็นเวลา 60 ปี ได้เลยหากจำเป็นจะต้องนำมาใช้ค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับรีวิวฉบับเต็มที่ใช้เวลานั่งทำใจกว่าจะเขียนขึ้นมาได้ร่วม 1 เดือนเพราะกายทิพย์ยังไม่กลับร่าง ยังคงเที่ยวเล่นอยู่ที่เมือง Sibiu ค่ะ กายหยาบกลับมาซักพักแล้ว ได้ไปมาทั้งหมดเมืองใหญ่ๆ 3 เมือง เมืองเล็กๆ อีก 2 เมืองรวมเป็น 5 เมืองด้วยกันค่ะ ทั้ง Sibiu, Strada Sibiiului, Bran, Poiana Brasov และ Cluj สำหรับเรื่องอาหารการกินรัตน์ว่าอาหารของโรมาเนียทานไม่ยากเลยค่ะ ใครที่เป็นสายสุขภาพทานผักน่าจะชอบมีซุปผักเยอะ มีโพแลนต้าให้ทาน และขนมปังทานคู่ซุปและอาหารจานหลักอื่นๆ ก็ทานง่ายพวกโปรตีนต่างๆ ค่ะ
ด้วยความที่รัตน์ไปเมืองเล็กอย่าง Sibiu มาผู้คนที่นั่นน่ารักเป็นกันเองค่ะ เดินทักทายกัน ไม่ค่อยระแวงกันเท่าไหร่ ดูเป็นมิตร ไปเดินแล้วสบายใจมีความสุขมาก คนโรมาเนียต้องบอกเลยว่าเบ้าหน้าสวย หล่อกันเกือบเยอะเลยค่ะ โดยเค้าจะมีผมสีดำ น้ำตาลเข้มและสีน้ำตาลกัน ไม่ค่อยเจอผมบลอนด์เท่าไหร่ โดยรวมแล้วเป็นทริปที่มีความสุขมาก สนุก และสบายใจ เป็นครั้งแรกที่ได้เดินทางไปยุโรปและไปคนเดียว เป็นเครื่องแรกที่ต่อเครื่อง และต่อเครื่องนานถึง 22 ชั่วโมง หาที่อาบน้ำ หาที่นอนที่สนามบินโดฮา ไว้จะมารีวิวอีกครั้งนะคะ มีชีวิตรอดอยู่ได้เพราะ WiFi ของสนามบินก็ว่าได้ และมีชีวิตรอดที่โรมาเนียใช้เน็ทได้ด้วยเน็ท e-Sim จองจาก KKDay ราคา 764 บาท กดจองตามได้เลย ที่นี่ ค่ะ
จบแล้วค่ะ ตั้งใจเขียน และยาวมากๆ
ขอบคุณทุกคนที่ตั้งใจอ่านมาจนถึงตอนท้ายนี้นะคะ 😀
Special Thanks : P’Stefan , P’Kenchi and Romania Embassy in Thailand