โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ เผยประสบการณ์และเชิญชวนให้ร่วมสัมผัสงานประจำปี Japanese Fair – Sense of Japan 2024 ครั้งที่ 3

95
{"ARInfo":{"IsUseAR":false},"Version":"1.0.0","MakeupInfo":{"IsUseMakeup":false},"FaceliftInfo":{"IsChangeEyeLift":false,"IsChangeFacelift":false,"IsChangePostureLift":false,"IsChangeNose":false,"IsChangeFaceChin":false,"IsChangeMouth":false,"IsChangeThinFace":false},"BeautyInfo":{"IsAIBeauty":false,"OldBeautyCount":1,"IsSharpen":false,"SwitchMedicatedAcne":false,"IsBrightEyes":false,"IsOldBeauty":false,"IsReduceBlackEyes":false},"HandlerInfo":{"AppName":2},"FilterInfo":{"IsUseFilter":false}}

โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ เผยประสบการณ์และเชิญชวนให้ร่วมสัมผัสงานประจำปี Japanese Fair – Sense of Japan 2024 ครั้งที่ 3

กรุงเทพฯ ประเทศไทย  (10 กันยายน 2567) โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสที กรุงเทพฯ ขอเชิญทุกท่านร่วมสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษกับงาน Japanese Fair – Sense of Japan 2024 ที่ยิ่งใหญ่ตื่นตาตื่นใจกว่าทุกปี ตลอด 3 วันเต็ม ตั้งแต่วันที่ 1-3 พฤศจิกายน 2567 พบกับกิจกรรมมากมายที่คัดสรรมาเพื่อคุณ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงศิลปะ วัฒนธรรม และอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับ

งาน Japanese Fair – Sense of Japan 2024 เชิญชวนคุณเปิดประตูสู่ญี่ปุ่น สัมผัสเสน่ห์ของวัฒนธรรมญี่ปุ่นอันหลากหลาย

ดื่มด่ำไปกับประสบการณ์สุดพิเศษที่ผสานความสงบของธรรมชาติเข้ากับความคึกคักของวัฒนธรรมญี่ปุ่น ตั้งแต่การแสดงศิลปะอันงดงามไปจนถึงการลิ้มลองเมนูพิเศษที่รังสรรค์ขึ้นมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ ทุกกิจกรรมของงานนี้อันแน่นไปด้วยความรู้เพื่อให้ทุกท่านเข้าถึงแก่นแท้ของความเป็นญี่ปุ่น

โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ได้ร่วมมือกับพันธมิตรที่มีชื่อเสียงเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครให้กับทุกท่าน อาทิ การร่วมมือกับห้องอาหารระดับ 2 ดาวมิชลิน ห้องอาหารเมซซาลูน่า ห้องอาหารระดับ 1 ดาวมิชลิน ห้องอาหารซูชิ มาซาโตะ และผู้เชี่ยวชาญด้านชาเขียวอย่าง อาจารย์ Kai Kato จากร้าน Ksana

การเดินทางด้านอาหารงาน Japanese Fair – Sense of Japan 2024นำเสนอการทำอาหารชั้นเลิศที่แสดงถึงความอร่อยของอาหารญี่ปุ่น อาทิ:

ห้องอาหารอัพ แอนด์ อะบัฟ โอกุระ อาฟเตอร์นูนที โอมากาเสะ กับห้องอาหารเมซซาลูน่า

วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2567 เวลา 15:00 น.

การร่วมมือสุดเอ็กซ์คลูซีฟระหว่าง หัวหน้าพ่อครัวใหญ่ เชฟเซบาสเตียน ฮูแกแวร์ฟ (Sebastiaan Hoogewerf) และ เชฟ Lucas Dumarski จากห้องอาหารเมซซาลูน่า ห้องอาหารระดับสองดาวมิชลินร่วมรังสรรค์รสชาติอันแสนประณีตผสมผสานระหว่างญี่ปุ่นและยุโรป ให้บริการวันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2567 เวลา 15:00 น. ราคาท่านละ2,450++ บาท รวมเครื่องดื่มสแตนดาร์ด

โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ยกระดับศิลปะการจิบน้ำชายามบ่าย ด้วยการเปิดตัว อาฟเตอร์นูนที โอมากาเสะ กับห้องอาหารเมซซาลูน่า เตรียมพบกับการผสมผสานรสชาติอันลงตัวระหว่างความละเมียดละไมของอาหารญี่ปุ่นกับความหรูหราของอาหารยุโรปในรูปแบบโอมากาเสะที่จะทำให้ทุกคำที่ลิ้มลองเป็นความประทับใจที่ยากจะลืมเลือน

หัวหน้าพ่อครัวใหญ่ เชฟเซบาสเตียน ฮูแกแวร์ฟ (Sebastiaan Hoogewerf) ผู้นำทัพความร่วมมืออันยอดเยี่ยมนี้ ร่วมกับเชฟ LucasDumarski หัวหน้าพ่อครัวขนมหวานชื่อดังแห่งห้องอาหารเมซซาลูน่า ห้องอาหารระดับสองดาวมิชลิน ณ โรงแรม  เลอบัว แอท สเตททาวเวอร์พร้อมมอบประสบการณ์การรับประทานน้ำชายามบ่ายที่น่าประทับใจไม่รู้ลืม ดื่มด่ำไปกับประสบการณ์จิบน้ำชายามบ่ายสุดพิเศษเหนือใคร กับ อาฟเตอร์นูนที โอมากาเสะ กับห้องอาหารเมซซาลูน่า เสมือนพาคุณไปสู่การเดินทางอันน่าหลงใหลของศิลปะการทำอาหารที่ผสมผสานความเป็นญี่ปุ่นและยุโรป เพื่อสร้างสรรค์ช่วงเวลาบ่ายของคุณให้เป็นที่น่าจดจำ

เพิ่มความพิเศษยิ่งขึ้น อาฟเตอร์นูนที โอมากาเสะ กับห้องอาหารเมซซาลูน่า ให้บริการเพียงรอบเดียวเท่านั้น ในวันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2567 เวลา 15:00 น. ด้วยที่นั่งเพียง 8 ที่ ทุกท่านจะได้รับประสบการณ์การจิบน้ำชายามบ่ายแบบใกล้ชิดและส่วนตัว

เวลา 15:00 น. ราคา 2,450++ บาท ต่อท่าน รวมเครื่องดื่ม

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองที่นั่ง ติดต่อ 02 687 9000 หรืออีเมล fb.concierge@okurabangkok.com

‘House of Ramen’

วันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2567 เวลา 12:00 น.

ห้องอาหารอัพ แอนด์ อะบัฟ หนึ่งในห้องอาหารชั้นเลิศของ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ขอเชิญทุกท่านร่วมสัมผัส House of Ramen” หนึ่งในไฮไลท์ของงาน Japanese Fair – Sense of Japan 2024ในวันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2567 ตั้งแต่เวลา 12:00 น. เป็นต้นไป

เตรียมพบกับสุดยอดประสบการณ์ราเมนที่ House of Ramen” ณ ห้องอาหารอัพ แอนด์ อะบัฟ ในงาน Japanese Fair – Sense of Japan ซึ่งทางโรงแรมฯได้ทำการคัดสรรเมนูราเมนโฮมเมดสูตรพิเศษที่รังสรรค์ขึ้นมาเพื่อเอาใจคนรักราเมนโดยเฉพาะ ทุกชามเต็มไปด้วยความตั้งใจของทีมเชฟในการนำเสนอรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่น จินตนาการถึงเส้นราเมนเหนียวนุ่มในน้ำซุปเข้มข้นหอมกลิ่นกระดูกหมู เครื่องเคียงหลากหลายที่คัดสรรมาอย่างดี ทุกคำที่ได้ลิ้มลองคือประสบการณ์ที่คุณจะไม่มีวันลืม ดื่มด่ำกับบรรยากาศญี่ปุ่นแท้ๆ ในขณะที่เพลิดเพลินกับราเมนชามโปรดของคุณ พร้อมเสิร์ฟคู่กับชาเขียว ร่วมสำรวจความน่าหลงใหลของอาหารญี่ปุ่นและสัมผัสประสบการณ์การเดินทางของเมนูราเมงได้เพียงวันเดียวเท่านั้น ณ ห้องอาหารอัพ แอนด์ อะบัฟ  ในวันที่ 2 พฤศจิกายนศกนี้ เวลา 12:00 น. ราคา 450++ บาท ต่อท่าน รวมเครื่องดื่มชาเขียว สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองที่นั่ง ติดต่อ 02 687 9000 หรืออีเมล fb.concierge@okurabangkok.com

โอกุระ อาฟเตอร์นูนที โอมากาเสะ พร้อมการจับคู่กับชาเขียวมัทฉะ

วันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2567 เวลา 11:00 น. และ 15:00 น.

ดื่มด่ำกับความหรูหรา ณ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ กับประสบการณ์จิบน้ำชายามบ่าย โอกุระ อาฟเตอร์นูนที โอมากาเสะ พร้อมการจับคู่ชาเขียวมัทฉะ สุดพิเศษที่ร่วมมือกับมัทฉะมาสเตอร์ Kai Kato จาก Ksana

เปิดประสบการณ์ใหม่กับ อาฟเตอร์นูนที โอมากาเสะ ที่จะพาคุณดื่มด่ำไปกับโลกแห่งรสชาติอันละเอียดอ่อนของขนมหวานและอาหารคาวยามบ่ายที่ผสมผสานความเป็นตะวันตกและความเป็นญี่ปุ่น ด้วยการเพิ่มกลิ่นหอมอันเข้มข้นของชาเขียวมัทฉะที่ผสมผสานได้เข้าด้วยกันอย่างลงตัว ในวันที่ 2 พฤศจิกายน เวลา 11:00 น. และ 15:00 น. จำนวนที่นั่งมีจำกัด เพื่อให้ทุกท่านได้สัมผัสถึงความพิเศษและดื่มด่ำไปกับรสชาติอันประณีต

Kai Kato ผู้มากประสบการณ์และหลงใหลในชา อีกทั้งเขายังเป็นผู้นำวงการชาเขียวมัทฉะ ด้วยความหลงใหลในชาเขียวและประเพณีอันลึกซึ้ง Kato ด้สร้างแบรนด์ Ksanaให้เป็นมาตรฐานของมัทฉะชั้นเลิศ ความเชี่ยวชาญในการคัดสรรใบชาชั้นยอดและวิธีการชงมัทฉะแบบดั้งเดิมทำให้เข้าได้รับการยกย่องอย่างแพร่หลาย โอกุระ อาฟเตอร์นูนที โอมากาเสะ พร้อมการจับคู่มัทฉะ Kato ได้รังสรรเมนูมัทฉะที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถันเติมเต็มรสชาติอันประณีตของน้ำชายามบ่าย

โอกุระ อาฟเตอร์นูนที โอมากาเสะ ได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิดโอมากาเสะของประเทศญี่ปุ่นที่มีความหมายตรงตัวว่า ฉันฝากไว้กับเธอ ในบริบทของร้านอาหารแปลได้ว่าฝากท้องของฉันไว้กับเชฟ หัวหน้าพ่อครัวใหญ่ เชฟเซบาสเตียน ฮูแกแวร์ฟ (Sebastiaan Hoogewerf)ได้รังสรรค์เมนูอย่างพิถีพิถัน ผ่านการนำเสนอวัตถุดิบที่ดีที่สุดและผสมผสาน โอมากาเสะ แบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นและความหรูหราของการจิบน้ำชายามบ่ายแบบยุโรป ทุกท่านจะได้รับประสบการณ์การรับประทานอาหารอันน่าทึ่งและยกระดับการจิบน้ำชายามบ่ายที่ไม่เหมือนใคร

ด้วยจำนวนที่นั่งจำกัดต่อรอบ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ มอบบรรยากาศส่วนตัวเพื่อให้ทุกท่านได้ดื่มด่ำบรรยากาศและรสชาติอันเลอค่าของการจิบน้ำชายามบ่ายที่ไม่เหมือนใครได้อย่างเต็มที่ นี่เป็นโอกาสพิเศษที่จะได้สัมผัสความหรูหราในแบบฉบับญี่ปุ่น เวลา 11:00 น. และ 15:00 น. ราคา 1,950++ บาท ต่อท่าน รวมชาเขียวมัทฉะ

‘Japanese Themed Sunday Brunch’

วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 2567 เวลา 12:30 น. ถึง 16:00 น.

เตรียมพบกับประสบการณ์สุดพิเศษกับบุฟเฟต์ซันเดย์ บรั้นช์ ในธีมญี่ปุ่นสุดอลังการ ห้องอาหารอัพ แอนด์ อะบัฟ ขอเชิญทุกท่านมาสัมผัสรสชาติอันหลากหลายของอาหารญี่ปุ่นขนานแท้ อีกหนึ่งกิจกรรมด้านอาหารในงาน Japanese Fair – Sense of Japan 2024 บุฟเฟต์มื้อสายวันอาทิตย์อันโด่งดังของโรงแรมจะถูกแปลงโฉมให้กลายเป็นงานฉลองภายใต้บรรยากาศแบบญี่ปุ่นที่คุณไม่อาจลืมเลือน

วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 2567 ช่วงเวลา 12:30 น. ถึง 16:00 น. ขอเชิญชวนทุกท่านมาลิ้มรสอาหารญี่ปุ่นรสเลิศนานาชนิด โดยทีมเชฟได้รังสรรค์เมนูอย่างพิถีพิถันเพื่อนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การรับประทานอาหารอัน         ยอดเยี่ยมกลับไปอย่างแน่นอน เมนูไฮไลท์ของ ‘Japanese Themed Sunday Brunch’ ได้แก่ ซูชิและซาชิมิ อาหารทะเลสดใหม่ อีกทั้งยังมีสเตชั่นอาหารญี่ปุ่นอย่างยากิโทริ ไม่เพียงแต่อาหารคาว ทีมเชฟยังได้เตรียมขนมหวานหลากหลายชนิดให้คุณได้เลือกสรร สร้างประสบการณ์อันเหนือระดับด้วย Kakubin Highball Experience ราคา 990++ บาท ต่อท่าน ในขณะที่ ‘Japanese Themed Sunday Brunch’ ราคา 2,950++ บาท ต่อท่าน รวมเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เวลา 12:30 น. ถึง 16:00 น. ราคา 2,950++ บาท ต่อท่าน รวมเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ราคา 990++ บาท ต่อท่าน สำหรับเครื่องดื่ม Kakubin Highball Experience

ห้องอาหารยามาซาโตะ

Tempura Omakase with Sake Japanese Flight

วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2567 เวลา 18:30 น.

วันเสาร์ที่ 2 และวันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 2567 เวลา 18:00 น.

ห้องอาหารยามาซาโตะ นำเสนอการเดินทางครั้งยิ่งใหญ่กับ เทมปุระ โอมากาเสะ ประสบการณ์การรับประทานอาหารอันประณีตที่จะทำให้คุณหลงรัก ด้วยเมนูเทมปุระชั้นเลิศ พร้อมเสิร์ฟคู่กับ สาเก ญี่ปุ่น ที่คัดสรรมาอย่างดี

ตั้งแต่วันที่ 1 ถึงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2567 ห้องอาหารยามาซาโตะได้จัดกิจกรรมด้วยเมนูอาหารญี่ปุ่น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงาน Japanese Fair – Sense of Japan 2024 ระหว่างงานพิเศษนี้ ทุกท่านจะได้ลิ้มรส เทมปุระ โอมากาเสะ ที่ปรุงอย่างพิถีพิถันจากเชฟรับเชิญผู้มีชื่อเสียงจากเมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เชฟ Yoshinobu Yamada จากห้องหาร กินซ่า เทมปุระ มาซ

เทมปุระ โอมากาเสะ ให้บริการที่เคาน์เตอร์ซูชิอันหรูหรา ณ ห้องอาหารยามาซาโตะ ทุกท่านจะได้สัมผัสถึงความเชี่ยวชาญและศิลปะการปรุงอาหารของเชฟอย่างใกล้ชิด เชฟได้เลือกสรรวัตถุดิบตามฤดูกาลที่ดีที่สุด เติมเต็มรสชาติเทมประอันประณีตด้วยการจับคู่เครื่องดื่มอย่างสาเกญี่ปุ่น เป็นการผสมผสานรสชาติที่กลมกลืนได้อย่างลงตัวสถานที่: ซูชิ ยามาซาโตะ เวลา 18:30 น. ราคา 6,400++ บาท ต่อท่าน สำหรับเทมปุระ โอมากาเสะรวมเครื่องดื่มสาเก ญี่ปุ่น

Teppanyaki Experience

วันศุกร์ที่ 1พฤศจิกายน 2567 เวลา 18:30 น.

วันเสาร์ที่ 2 และวันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 2567 เวลา 18:00 น.

 

เทปปันยากิ ซาซังก้า ณ ห้องอาหารยามาซาโตะ ห้องอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับและมีชื่อเสียงด้านเทปปันยากิ สไตล์ญี่ปุ่นขนานแท้ จับมือร่วมกับเชฟ Katsuji Kato จากห้องอาหารยามาซาโตะ ณ โรงแรม โอกุระมะนิลา อีกหนึ่งกิจกรรมจากห้องอาหารยามาซาโตะในงาน Japanese Fair – Sense of Japan 2024 สัมผัสประสบการณ์การรับประทานเทปปันยากิ กับเชฟ Kato ได้ในวันที่ 1 – 3 พฤศจิกายน 2567

ประสบการณ์พิเศษนี้จะพาทุกท่านเดินทางไปกับการรับประทานอาหารที่น่าจดจำผ่านหัวใจสำคัญของอาหารญี่ปุ่น เทปปันยากิเป็นเทคนิคการปรุงอาหารอันซับซ้อน โดยการเตรียมวัตถุดิบสดใหม่ลงบนกระทะร้อน เชฟ Kato มีประสบการณ์มามากกว่า 18 ปี ในด้านการทำอาหารตะวันตกและศิลปะการทำอาหารอันเป็นเอกลักษณืนี้ ก่อนหน้านี้เชฟ Kato ได้ฝึกฝนทักษะของเขาที่ Mandarin Oriental Tokyo อันโด่งดัง โดยทำงานกับห้องอาหาร Tapas Molecular Bar ห้องอาหารระดับดาวมิชลิน ปัจจุบันในฐานะเชฟผู้เชี่ยวชาญด้านเทปปันยากิ ห้องอาหารยามาซาโตะ โรงแรม โอกุระ มะนิลา เชฟจะนำความเชี่ยวชาญที่มีมาให้บริการทุกท่านที่ เทปปันยากิ ซาซังก้า

ณ เทปปันยากิ ซาซังก้า ทุกท่านจะได้ลิ้มลองเมนูที่ถูกรังสรรค์อย่างพิถีพิถัน แสดงถึงความเชี่ยวชาญด้านการทำอาหารของเชฟ Kato พร้อมชมการเตรียมวัตถุดิบสดใหม่ตามฤดูกาลต่อหน้า พร้อมกับกลิ่นหอมอันเย้ายวนผสมเสียงอันเป็นเสน่ห์ของ           เทปปันยากิ ช่วยยกระดับประสบการณ์การรับประทานได้เป็นอย่างดี

เทปปันยากิ ให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 ถึงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2567 ตั้งแต่เวลา 18:00 น. ณ เทปปันยากิ ซาซังก้า ราคาท่านละ 5,500++ บาท สำหรับเทปปันยากิมื้อค่ำ นอกจากนี้ยังสามารถยกระดับการรับประทานอาหารด้วยคราฟต์เบียร์สไตล์ญี่ปุ่น ที่คัดสรรมาอย่างดี โดยสามารถเพิ่มในราคา 1,250++ บาท ต่อท่าน

สถานที่: เทปปันยากิ ซาซังก้า เวลา 18:30 น. ราคา 5,500++ บาท ต่อท่าน สำหรับเทปปันยากิมื้อค่ำ ราคา 1,250++ บาท ต่อท่าน สำหรับคาร์ฟต์เบียร์สไตล์ญี่ปุ่น

Sushi Kaiseki Omakase

วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 2567 เวลา 12:00 น.

ซูชิ ยามาซาโตะ ณ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ มีความยินดีที่จะนำเสนอประสบการณ์พิเศษ กับ ซูชิ ไคเซกิ โอมากาเสะ ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งของงานประจำปี Japanese Fair – Sense of Japan 2024การเดินทางสุดพิเศษนี้ทุกท่านจะได้ลิ้มลองกับวัตถุดิบสดใหม่ตามฤดูกาลและรังสรรค์อย่างพิถีพิถันโดยเชฟ คัสสึโนบุ โออิชิ ผู้มากฝีมือ

จำกัดเพียง 8 ท่านเท่านั้น สำหรับ ซูชิ ไคเซกิ โอมากาเสะ เพื่อมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารสุดพิเศษและส่วนตัว โดยแต่ละจานจะสัมผัสถึงความใส่ใจในรายละเอียดอย่างพิถิพิถันของเชฟโออิชิ ซึ่งเชฟได้นำเสนอความสมดุลอันละเอียดอ่อนของรสชาติและเนื้อสัมผัสอันเป็นเอกลักษณ์ของอาหารญี่ปุ่นอย่างแท้จริง ตั้งแต่คำแรกจนคำสุดท้ายทุกท่านจะได้สัมผัสศิลปะและความหลงใหลที่รังสรรค์ออกมาเป็นงานศิลปะชิ้นเอก ประสบการณ์ที่ไม่มีใครเทียบได้ มีให้บริการเฉพาะวันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 2567 เวลา 12:00 น. ราคาท่านละ 4,200++บาทบาท ต่อท่าน สำหรับซูชิ ไคเซกิ โอมากาเสะ

 

ห้องอาหารเอเลเมนท์ อินสไปร์ บาย เซล เบลอ

‘A Michelin Starry Night: Whispers of Gastronomic Grandeur’

ห้องอาหารเอเลเมนท์ อินสไปร์ บาย เซล เบลอ / ห้องอาหารเมซซาลูน่า / ซูชิ มาซาโตะ

วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 2567 เวลา 18:00 น.

เซ็ตเมนูมื้อค่ำสุดพิเศษ 9 คอร์ส ที่รวบรวมสุดยอดเชฟระดับดาวมิชลินทั้ง 3 ท่าน ได้แก่ เชฟเจอราร์ด วิลลาเรท ฮอร์คาโญ (Gerard Villaret Horcajo) จากห้องอาหารเอเลเมนท์ อินสไปร์ บาย เซล เบลเชฟ Shimizu Masato จาก ซูชิมาซาโตะ และ เชฟ Ryuki Kawasakiจากห้องอาหาร เมซซาลูน่า จัดขึ้นในค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 2567 เวลา 18:00 น. เตรียมพบกับปรากฎการณ์การทำอาหารที่ไม่มีที่ใดเปรียบได้ ณ ห้องอาหารเอเลเมนท์ อินสไปร์ บาย เซล เบลอ เตรียมพร้อมจัดงานดินเนอร์สุดพิเศษ “A Michelin Starry Night: Whispers of Gastronomic Grandeur ที่รวมเอาเชฟระดับดาวมิชลิน 3 ท่านที่มีชื่อเสียงที่สุดมาร่วมกันสร้างประสบการณ์การเดินทางด้านอาหาร 9คอร์สที่น่าจดจำ

เริ่มต้นการเดินทางที่สร้างสรรค์ขึ้นอย่างประณีตพิถีพิถัน โดยสุดยอดเชฟทั้ง 3 ท่าน ได้แก่ เชฟเจอราร์ด วิลลาเรท ฮอร์คาโญ(Gerard Villaret Horcajo) ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของห้องอาหารเอเลเมนท์ อินสไปร์ บาย เซล เบลอ ร่วมมือกับเชฟผู้มาก

ความสามารถทั้ง 2 ท่าน อย่างเชฟ Shimizu Masato ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำซูชิโอมากาเสะ จาก ซูชิมาซาโตะ และ เชฟ Ryuki Kawasaki ผู้มีวิสัยทัศน์จากห้องอาหาร เมซซาลูน่า การร่วมงานครั้งนี้เป็นการผสมผสานรสชาติอย่างลงตัวระหว่างความหรูหราของอาหารฝรั่งเศสและความประณีตของอาหารญี่ปุ่น เพื่อสร้างประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ยากจะลืมเลือน

เชฟ Shimizu Masato ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำอาหารมาอย่างยาวนาน ได้ฝึกฝนฝีมือการทำซูชิระดับสูง จากจุดเริ่มต้นในโตเกียวสู่การคว้าดาวมิชลินในมาหนครนิวยอร์ก เชฟได้อุทิศตนทุ่มเทอย่างไม่หยุดยั้งในการมอบประสบการณ์โอมากาเสะที่ดีที่สุด ความใส่ใจในรายละเอียดและความหลงใหลในการทำอาหารของเขาจะปรากฎอยู่ในซูชิทุกคำที่เชฟรังสรรค์ขึ้น

เชฟ Ryuki Kawasaki ผู้รังสรรค์เมนูอาหารฝรั่งเศสในแบบฉบับของตัวเอง ณ ห้องอาหารเมซซาลูน่า ห้องอาหารฝรั่งเศสเพียงหนึ่งเดียวในประเทศไทยที่สามารถครองรางวัลระดับ 2 ดาวมิชลินได้อย่างต่อเนื่องและยาวนานที่สุด ด้วยความรู้ด้านอาหารและวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นอย่างลึกซึ้ง เชฟ Kawasaki ได้รังสรรค์เมนูอาหารด้วยการผสมผสานเทคนิคการทำอาหารฝรั่งเศสอันละเอียดอ่อนกับวัตถุดิบชั้นเลิศจากประเทศญี่ปุ่น จนทำให้ห้องอาหารเมซซาลูน่ากลายเป็นตำนานแห่งวงการอาหารได้อย่างสมบูรณ์แบบ

เชฟผู้มากความสามารถทั้ง 3 ท่าน จะร่วมกันนำเสนอเมนู 9 คอร์สที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน โดยแต่ละคอร์สแสดงถึงทักษะการทำอาหารอันยอดเยี่ยมของแต่ละท่าน   ทุกท่านจะได้สัมผัสถึงการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างความประณีตจากการทำอาหารฝรั่งเศสและความพิถีพิถันตามแบบฉบับญี่ปุ่น โดยได้สอดแทรกกลิ่นอายของงานประจำปี Japanese Fair – Sense of Japan ไว้ได้อย่างแนบเนียน

‘A Michelin Starry Night: Whispers of Gastronomic Grandeur’คุณจะได้สัมผัสกับประสบการณ์อันล้ำค่าที่หาได้ยาก ที่รวมสุดยอดฝีมือเชฟระดับดาวมิชลินทั้ง 3 ดวง มาไว้ด้วยกัน พบกับเมนูอาหารชั้นเลิศที่รังสรรค์อย่างพิถีพิถันและสัมผัสค่ำคืนแห่งการเฉลิมฉลองกับศิลปะการทำอาหารชั้นสูงที่ไม่เหมือนใครและมิอาจลืมเลือน

เวลา 18:00 น. ถึง 22:00 น. ราคา 9,990++ บาท ต่อท่าน สำหรับเซ็ตเมนู 9 คอร์ส ราคา 3,900++ บาท ต่อท่าน สำหรับการจับคู่ไวน์

กิจกรรมเวิร์กชอปและการแสดงที่น่าตื่นตาตื่นใจ นอกจากอาหารอันเลิศรส ยังมีกิจกรรมเวิร์กชอปที่น่าสนใจและแสดงถึงวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นมากมาย อาทิ

Kintsugi Workshop ศิลปะแห่งความไม่สมบูรณ์ กับกิจกรรม คินสึงิ

ณ ห้องอาหารยามาซาโตะ วันเสาร์ที่ 2 และ 3 พฤศจิกายน 2567 เวลา 11:00 น.

งาน Japanese Fair – Sense of Japan 2024 ขอเชิญชวนให้คุณดื่มด่ำไปกับเสน่ห์อันลุ่มลึกของวัฒนธรรมญี่ปุ่น หนึ่งในไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้คือเวิร์กช็อปสุดพิเศษ คินสึงิ เดือนพฤศจิกายนนี้ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ จะเป็นสถานที่อันเงียบสงบให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์เหนือกว่าการซ่อมแซมเครื่องปั้นดินเผา ค้นพบปรัชญาอันลึกซึ้งที่สอดแทรกอยู่ในเส้นใยแห่งประเพณีญี่ปุ่น

กิจกรรมคินสึงิ หมายถึงศิลปะการซ่อมแซมด้วยทอง เป็นศิลปะการซ่อมแซมเครื่องปั้นดินเผาที่แตกหักด้วยโลหะมีค่า โดยทั่วไปจะใช้ทองคำเพื่อปิดบังรอยแตกร้าว คินสึงิ คืองานฝีมือสัญชาติญี่ปุ่นที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน กลายเป็นปรัชญาและความเชื่อที่ว่า ถ้วยชามที่แตกบิ่นนั้นไม่ควรทิ้งขว้าง แต่ควรซ่อมเพื่อให้พวกมันกลับคืนมามีชีวิตอีกครั้ง

งาน Japanese Fair – Sense of Japan 2024 กับกิจกรรมคินสึงิมอบโอกาสพิเศษให้ทุกท่านได้สัมผัสกับศิลปะอันน่าหลงใหลนี้ พร้อมคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ คุณชยานันท์ อนันตวัชกร (ตูน) ทุกท่านจะได้เรียนรู้เทคนิคอันพิถีพิถันของคินสึงิ ด้วยการซ่อมแซมชิ้นส่วนเซรามิกที่แตกกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ด้วยประสบการณ์มากกว่า 10 ปีของการฝึกฝนผลงานตั้งแต่ศิลปะชิ้นโบราณไปจนถึงศิลปะร่วมสมัย คุณตูนคือผู้เชี่ยวชาญแห่งศิลปะโบราณอย่างแท้จริง   ความหลงใหลในคินสึงิแสดงให้เห็นถึงความสามารถของเขาที่ไม่เพียงแต่ฟื้นฟูสิ่งของให้กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง แต่ยังยกระดับวัตถุที่แตกหักให้กลายเป็นศิลปะ              ที่มีคุณค่าและน่าทึ่งอีกด้วย

คินสึงิเป็นมากกว่าเทคนิคการซ่อมแซม คุณตูนกล่าว แต่ยังเป็นการค้นพบความงามในความไม่สมบูรณ์แบบ และการมอบชีวิตใหม่ให้กับวัตถุอันเป็นที่รัก ผมรู้สึกตื่นเต้นที่จะแบ่งปันความรู้และความหลงใหลของผมให้กับทุกท่าน กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมการทำสมาธิ อีกทั้งยังช่วยให้เข้าใจถึงวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นได้อย่างลึกซึ้ง วัฒนธรรมที่ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อความเคารพ การฟื้นฟู และการแสวงหาความงดงามตามธรรมชาติที่พบได้จากความไม่สมบูรณ์

ภายในกิจกรรมทุกท่านจะได้อิ่มอร่อยไปกับ โชกาโดะ เบนโตะ มื้อกลางวันสุดพิเศษที่รังสรรค์จากห้องอาหารยามาซาโตะ ห้องอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับโรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ มื้ออาหารอันประณีตนี้ประกอบด้วยอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับอันน่ารื่นรมย์ ที่จะช่วยให้คุณเติมเต็มประสบการณ์และดื่มด่ำกับวัฒนธรรมแบบฉบับญี่ปุ่นได้อย่างสมบูรณ์แบบ

กิจกรรมคินสึงิ จัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 2 และวันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 2567 เวลา 11:00 น. ถือเป็นโอกาสอันดีที่คุณจะได้เรียนรู้ทักษะศิลปะและยังได้รับความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับปรัชญาความงดงามแบบฉบับญี่ปุ่น เริ่มต้นการเดินทางแห่งการสำรวจศิลปะและค้นพบวัฒนธรรมแบบญี่ปุ่น ณ งาน Japanese Fair – Sense of Japan 2024 กับกิจกรรมคินสึงิ

วันเสาร์ที่ 2 และวันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 2567 เวลา 11:00 น. ราคา 3,500++ บาท ต่อท่าน สำหรับกิจกรรมคินสึงิ รวมโชกาโดะ เบนโตะ มื้อกลางวัน

Wagashi Workshop กิจกรรมการทำขนมวากาชิ

ณ ห้องอาหารเอเลเมนท์ อินสไปร์ บาย เซล เบลอ วันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2567 เวลา 14:00 น.

โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ขอเชิญทุกท่านมาสัมผัสกิจกรรมอันน่าหลงใหลของขนมหวานญี่ปุ่นกับกิจกรรม ‘Wagashi Workshop’ ประสบการณ์อันน่ารื่นรมย์อีกหนึ่งกิจกรรมในงาน Japanese Fair – Sense of Japan 2024 ที่เปิดโอกาสให้ทุกท่านได้เรียนรู้ศิลปะอันละเอียดอ่อนในการทำขนมหวานญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม

วันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2567 เวลา 14:00 น. ท่านที่เข้าร่วมกิจกรรมทำขนมวากาชิจะได้รับคำแนะนำจากอาจารย์ผู้มีประสบการณ์การทำวากาชิอย่างใกล้ชิด ทุกท่านจะได้สัมผัสวัฒนธรรมและงานฝีมืออันพิถีพิถันละเอียดอ่อนของญี่ปุ่น

กิจกรรมการทำขนมวากาชิ เป็นการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างการเรียนรู้และความเพลิดเพลิน ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และการเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมญี่ปุ่น ทุกท่านจะได้เพลิดเพลินกับขั้นตอนการทำขนมและยังได้ลิ้มรสจากผลงานอันแสนหวานของตนเอง กิจกรรมการทำขนมวากาชิ จำกัดจำนวนผู้เข้าเรียน ในราคาท่านละ 1,650++ บาท ต่อท่านเวลา 14:00 น. ราคา 1,650++ บาท ต่อท่าน สำหรับกิจกรรมทำขนมวากาชิ

Sake Masterclass with École Ducasseณ ห้องอาหารอัพ แอนด์ อะบัฟ วันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2567

โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ขอนำเสนอกิจกรรม ‘Sake Masterclass by École Ducasse’ พื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเฉลิมฉลองเทศกาลประจำปี งาน Japanese Fair – Sense of Japan 2024 โดยจะจัดกิจกรรม ‘Sake Masterclass by École Ducasse’ ในวันเสาร์ที่ 2พฤศจิกายน 2567 เวลา 16:30 น.

สาเก คือเครื่องดื่มประจำชาติของญี่ปุ่น ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่แสดงถึงประเพณี ความประณีต และดื่มด่ำรสชาติตามฤดูกาล ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน สาเกได้พัฒนาเป็นเครื่องดื่มที่มีความซับซ้อนและละเอียดอ่อน โดยมีรสชาติที่หลากหลายตั้งแต่รสชาติละเอียดอ่อน เบาบาง หอมกลิ่นดอกไม้ จนถึงรสชาติอันเข้มข้น

‘Sake Masterclass by École Ducasse’ จะนำพาทุกท่านเข้าสู่โลกแห่งสาเก โดยผู้เชี่ยวชาญจาก École Ducasse โรงเรียนสอนอาหารที่มีชื่อเสียงระดับโลก กิจกรรมนี้จะให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสาเกและการชิมสาเกประเภทต่างๆ ทุกท่านจะมีโอกาสได้ลิ้มรสชาติสาเกระดับพรีเมียมที่คัดสรรมาอย่างดีและเรียนรู้เทคนิคสำหรับการจับคู่กับอาหาร

École Ducasse เป็นที่ยอมรับด้านการสอนการทำอาหาร คลาสเรียนได้รับการออกแบบมาเพื่อยกระดับผู้เรียนให้มีมาตรฐานสูงสุด ในขณะเดียวกันยังคงรักษาเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยการมุ่งเน้นทั้งทฤษฎีและการปฏิบัติ หลักสูตรของโรงเรียนจึงสามารถส่งมอบประสบการณ์การเรียนรู้ที่ครอบคลุมและสามารถนำความรู้ไปใช้ได้จริง ‘Sake Masterclass by École Ducasse’ ราคา 1,950++ บาท ต่อท่าน กิจกรรมสุดพิเศษนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบสาเกและต้องการหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวัฒนธรรม

เวลา 16:30 น. ราคา 1,950++ บาท ต่อท่าน

Japanese Calligraphy Performance

ณ ล็อบบี้ ชั้น 24 โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ วันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2567 เวลา 17:45 น. วันเสาร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2567 เวลา 17:30 น.

งานประจำปีครั้งที่ 3 Japanese Fair – Sense of Japan 2024 ขอมอบประสบการณ์อันน่าตื่นตาตื่นใจให้แก่ผู้เข้าร่วมงาน ด้วยการนำเสนอศิลปะและวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างโดดเด่น หนึ่งในไฮไลท์ของงานคือการแสดงศิลปะการเขียนคันจิญี่ปุ่นอันน่าหลงใหล โดยศิลปินผู้มีชื่อเสียง อาจารย์ Baikei Uehira ช่างเขียนคันจิชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น

ในวันเสาร์ที่ 2 และวันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 2567 เวลา 17:30 น. อาจารย์ Uehira จะบรรเลงการแสดงศิลปะการเขียนคันจิญี่ปุ่นกลางโถงล็อบบี้ชั้น 24 ณ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการเขียนคันจิญี่ปุ่น อาจารย์ Uehira จะนำเสนอความงดงาม ความแม่นยำ และ ความสำคัญทางวัฒนธรรมของประเพณีโบราณนี้

การแสดงนี้จะมอบโอกาสอันหาได้ยาก ให้ผู้ชมได้เห็นความสง่างามและทักษะของปรมาจารย์ด้านการเขียนคันจิอย่างแท้จริแขกผู้เข้าชมจะถูกสะกดใจด้วยการเคลื่อนไหวที่ลื่นไหลและตัวอักษรที่ซับซ้อนซึ่ง   อาจารย์Uehira   สร้างขึ้น งาน Japanese Fair – Sense of Japan 2024 จะเป็นงานที่น่าจดจำและร่วมกันเฉลิมฉลองวัฒนธรรมอันยาวนานและประเพณีทางศิลปะของประเทศญี่ปุ่น