ถ้านั่งนับดูถึงความมุ้งมิ้งและน่ารักที่สุดในน่านฟ้าไต้หวันแล้วนั้น ก็ขอยกอันดับหนึ่งให้แก่สายการบิน อีวีเอแอร์ สายการบินเอกชนอันดับหนึ่งของไต้หวัน ขอนำเสนอสายการบินสุดมุ้งมิ้งประจำเกาะไต้หวัน รวมถึงแนะนำเลาจน์หรือห้องรับรอง ณ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทยกันค่ะ
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับสายการบิน อีวีเอแอร์ หรือที่คนไทยเรียกติดปากกันว่า อีว่าแอร์ (จริงๆ ต้องเป็น อีวีเอแอร์นะคะ) สายการบินอีวีเอแอร์ เป็นบริษัทที่อยู่ภายใต้บริษัท Evergreen Group ซึ่งดำเนินธุรกิจหลากหลายประเภทด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจด้านการขนส่งสินค้า, ธุรกิจโรงแรม, ธุรกิจเครื่องบิน การบิน และอีกมากมาย
สำหรับคนไทยแล้วนั้นอาจจะรู้จักสายการบิน EVA AIR จากการเดินทางไปอเมริกา เพราะเป็นหนึ่งในสายการบินที่นำพานักเรียน นักศึกษา รวมถึงนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก บินไปอเมริกาค่ะ นอกเหนือจากเส้นทางการบินที่โดดเด่นแล้วนั้น อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ EVA AIR ถูกจดจำจากคนทั่วทุกมุมโลก คงจะหนีไม่พ้นความมุ้งมิ้งของเครื่องบินลำพิเศษต่างๆที่เป็นลายตัวการ์ตูนสุดน่ารักยอดฮิตอย่างเจ้า Hello Kitty นั่นเอง (สำหรับใครที่สนใจอยากนั่งเครื่องบินลายคิตตี้ก็ลองคลิกเข้าไปที่ Link นี้นะคะ http://evakitty.evaair.com/en/ )
สำหรับใครเป็นสาวกคิตตี้ สามารถไปเที่ยวไต้หวันกันก่อนได้นะคะ แล้วก็บินต่อตามไฟล์ทด้านล่าง จะได้บินเครื่องบินลายคิตตี้กันค่ะ !!!
สำหรับใครที่เช็คอินก่อนหน้าในเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นนั้นสามารถมาต่อคิวที่จุดโหลดกระเป๋านี้ได้เลยค่ะ
ห้องรับรอง
ภายในเว็บเรานำเสนอส่วนใหญ่จะเป็นสายการบินต้นทุนต่ำ หรือ Budget Airlines ซึ่งสามารถติดตามอ่านได้ภายในเว็บไซต์นี้ในเมนู Airlines ค่ะ สำหรับใครที่ชอบเดินทางแบบ Premium หรือ Full Service ก็ลองติดตามรีวิวตัวนี้ดูกันได้ค่ะ ถ้าพูดถึง Full Service ก็หนีไม่พ้นการบริการที่เต็มเหนี่ยว ไม่ว่าจะเป็น ไม่ต้องซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม (ได้ 20 กิโลกรัม) ไม่ต้องซื้ออาหารบนเครื่องเพราะมีบริการอยู่แล้ว สามารถเช็คอินผ่านแอพพลิเคชั่นก่อนได้
หลังจากที่เราเช็คอินผ่านแอพพลิเคชั่นแล้วนั้น เมื่อถึงเวลาที่เช็คอินเปิดให้บริการ เราก็เข้าไปในช่องที่ Drop กระเป๋าและรับตั๋วเดินทางของเราไปได้เลยแบบเร็วฝุดๆ (จริงๆ แล้วเราไปก่อนล่วงหน้า 3 ชั่วโมงน่ะ ไม่อยากต่อแถวเยอะๆ)
รอบนี้เราเดินทางแบบที่นั่งระดับ Elite Class ซึ่งอัพเกรดมาจากที่นั่งแบบ Economy เรียกได้ว่าเป็น Premium Economy นั่นเองค่ะ ครั้งนี้ต้องขอขอบคุณสายการบิน EVA AIR ที่อนุญาตให้เราเข้ามาถ่ายภาพภายในห้องรับรองของสายการบินในสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้น 3 ของสนามบินค่ะ
เมื่อเดินมาถึงที่ห้องรับรองบริเวณชั้น 3 เดินเข้ามาด้านในแล้ว รู้สึกเหมือนเข้ามาในอวกาศยังไงยังงั้นเลย เพราะเค้าตกแต่งแนวโมเดิร์น ตกแต่งแนวเรียบหรู สีดำ มีแนวไฟตกแต่งเป็นแนวตามทางสวยงาม มีที่นั่งมากมาย และปลั๊กไฟ USB เอาไว้ชาร์ทแบตมือถือหรือ Smart Phone ได้ แต่มีกฎนิดหน่อยสำหรับคนที่สามารถเข้ามาในห้องรับรองได้ ต้องจองตั๋วโดยสารแบบ Business Class, Premium Laurel, Royal Laurel และ Diamond เท่านั้นนะคะ
ด้านหน้าค่ะ
เดินเข้ามาด้านในละ
ด้านในตกแต่งสีดำแบบนี้ค่ะ เล่นแสงไฟเอาสวยๆ
มาชมด้านในต่อค่ะ
เราลองมาเดินสอดส่องภายในห้องรับรองกันดีกว่าว่ามีบริการอะไรกันบ้าง
1. ห้องพิมพ์เอกสาร หรือเล่นอินเตอร์เน็ท (พร้อมกระดาษพริ้นท์ได้ฟรี)
2. ห้องเก้าอี้นวด (จำนวน 2 ห้อง)
3. ห้องอาหารตัก Buffet
4. ห้องอาบน้ำและห้องน้ำ (ห้องอาบน้ำต้องติดต่อพนักงานก่อนนะคะ)
อย่าลืมติดต่อพนักงานก่อนการอาบน้ำนะคะ
5. บริการนิตยสารและหนังสือพิมพ์
6. เก้าอี้ที่นั่งมากมาย (แต่ไม่มีห้องส่วนตัวหรือมุมส่วนตัวซักเท่าไหร่)
7. หน้าจอบอกไฟลท์ของ EVA AIR ทั้งหมดเพื่อไม่ให้พลาดการเดินทาง
ก่อนจะเดินออกจากส่วนของห้องพักรับรองมาชมอาหารบางส่วนค่ะ
ต้มยำกุ้ง !!
พิซซ่า ไส้กรอก ก็มานะ
ผลไม้แซนวิซก็มา
เครื่องดื่มหยิบไม่อั้นนะ
ขนมหวานจ๊ะ
ไอศครีม น้ำชา มีกาแฟด้วยจ๊ะ
อันนี้คงจะเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆคน
ไปบินกันกันเถอะ !!!
เมื่อถึงเวลาไฟลท์บินของเราก็เดินไปที่เกทหมายเลข B6 กันค่ะ เพื่อรอขึ้นเครื่องไฟลท์ BR 212 ออกเดินทางจาก กรุงเทพฯ เวลา 12:40 น. ตามเวลาประเทศไทยนั่นเอง
ไฟลท์ที่เราเดินทางรอบนี้นั้นคนค่อนข้างแน่น และเต็มลำเลยก็ว่าได้ค่ะ มาถึงที่นั่งเก็บของปุ๊บก็รีบถ่ายภาพมาฝากเพื่อนๆกันค่ะว่าที่นั่งแบบ Premium Economy นั้นเป็นแบบไหน
ชอบที่มีปลั๊กให้เสียบแบบนี้ค่ะ
ที่นั่งค่อนข้างกว้าง มีหน้าจอสัมผัสที่แตกต่างจากชั้น Economy ที่หน้าจอดูหนังเล็กกว่า และต้องใช้รีโมทกดอย่างเดียวค่ะ หน้าจอสัมผัสกดๆ เหมือนกำลังเล่นมือถืออยู่เลย ใช้งานง่ายกว่าค่ะ ที่นั่งกว้างกว่า และมีที่ชาร์ทแบตด้วยค่ะ สิ่งที่ชอบอีกอย่างของการบิน Premium Airlines คือ การสั่งอาหารตามประเภทที่เราชอบผ่านทางเว็บไซต์ของสายการบินนั่นเอง ตอนรอบขากลับเรามีสั่ง Seafood Meal ไปค่ะ รายการอาหารก็จะแตกต่างจากบนเครื่องด้วยค่ะ
มาชมห้องโดยสารแบบ Elite Class และ Economy Class กันเลนจ๊ะ !!! และเมนูอาหารของพวกเราด้วย น่าหม่ำฝุดๆ
ที่นั่งค่อนข้างใหญ่ค่ะ มีที่วางแขนด้วย นั่งไม่อึดอัด
บางไฟลท์อาจจะไม่ได้มี Elite Class นะคะ ก้ต้องลองดูในเว็บไซต์ หรือสอบถามพนักงานให้ดีค่ะ
ได้ที่นั่งแล้วก็นั่ง และชักภาพมาฝากเพื่อนๆ กันจ๊ะ
ด้านหน้าเป็นที่นั่งแบบ Premium Lauren นั่นเอง (แอบอยากนั่งบ้าง ><)
หน้าจอเป็น Touch Screen ค่ะลองมาดู Economy Class กันดูบ้างค่ะ
ไฟลท์ขากลับมีน้องแอร์คนไทยด้วยค่ะ
หน้าจอเล็กลงแล้ว >< แอบกดๆๆ เหมือนตอนดูหนังรอบที่มาด้วยค่ะ
ที่นั่งเล็กลงแอบใกล้ชิดกับคนนั่งข้างๆมากขึ้นค่ะ
ที่นั่งกว้างจ๊ะ
จอแอบเล็กลงค่ะ >[]<
มาซื้อของกันนะคะ (นิตยสารเปลี่ยนฉบับซะแล้ว เรามากันข้ามเดือนกันเลย)
หมอนเล็กๆ น่ารักๆ ของ EVA AIR
อันนี้เป็นอาหารไฟลท์ขาไปค่ะ ซึ่งไม่ได้ระบุอาหารหรือสั่งอาหารเลย สั่งจากเมนูปกติเอาค่ะ เป็น ยากิโซบะหมู่นั่นเองจ๊ะ
ของน้องเอิร์นเป็นจานเนื้อและข้าวพ้อมเครื่องเคียงเหมือนกันเป้นขนมเค้กสตรอเบอร์รี่ ผลไม้ และถั่ว
ไฟล์ทขากลับน้องเอิร์นสั่งเป็น Low Fat Meal อาหารไขมันน้อยค่ะ รสชาติโอเคเลย
แซลมอนอร่อยค่ะน่าสั่งที่ฝุดในสามโลก (แต่แอบร่วนนิดนึงอ่ะ)
ลองซูมออกให้เห็นอาหารทั้งเซ็ตดูค่ะ *0* น่ากิน (อยากกินอีกง่ะ)
สั่งอาหารจากเมนูได้เลยนะคะ สำหรับใครที่ไม่ได้จองอาหารผ่านเว็บไซต์มาค่ะ
ระหว่างการเดินทางไปเกาะมันเผารอบนี้ไม่มีการเจอหลุมอากาศใดๆ ทั้งสิ้น รวมเวลาการเดินทางจากไทย-ไต้หวันแล้วนั้นอยู่ที่ประมาณ 3 ชั่วโมงนิดๆ เท่านั้นเอง เครื่องบิน Landing ได้นุ่มไม่รุนแรงมาก ทำให้เที่ยวบินสายสีเขียวของ EVA AIR นำพาเรามาที่ไต้หวันได้อย่างปลอดภัยค่ะ
โดยปกติแล้วเราจะลงเครื่องที่สนามบินเถาหยวน อาคาร 1 แต่ถ้ามาบินกับ EVA AIR แล้วนั้นจะไปลงที่อาคาร 2 ค่ะ ซึ่งหากใครนัดให้เพื่อน, ญาติ หรือโรงแรมไปรับแล้วนั้นให้ไปนัดเจอกันที่อาคารผู้โดยสารขาเข้า 2 นะคะ 😀
นำรูปสนามบินเถาหยวนอาคาร 2 มาฝากค่ะ แต่สำหรับสาวกคิตตี้แล้วนั้น ขาออกที่จะบินกลับไทยนั้นน่าสนใจยิ่งกว่า เลยนำภาพอาคารผู้โดยสารขาออกมาฝากเพื่อนๆจ๊ะ
สำหรับใครที่สนใจอยากจะจองตั๋วเครื่องบินไปเที่ยวกับ EVA AIR กันบ้างแล้วล่ะก็ สามารถสอบถามข้อมูลเรื่องไฟล์ทและราคาเที่ยวบินเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 02-269-6288 หรือเข้าไปเช็คเที่ยวบินแบบรวดเร็วที่เว็บไซต์ www.evaair.com และสำหรับผู้ที่ต้องการเช็คอินและเช็คเที่ยวบินผ่านแอพพลิเคชั่นแล้วล่ะ สามารถดาวน์โหลด์ได้ที่
1. สำหรับ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.evaair.android&hl=en
2. สำหรับ iOS : https://itunes.apple.com/en/app/eva-mobile/id443099960?mt=8 ตามนี้ได้เลยค่ะ
ใครที่ดูรูปแล้วสนใจอยากจะบินกับสายการบินมุ้งมิ้งแล้วล่ะก็ ตั๋วเครื่องบินราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 13,XXX บาทค่ะ
สำหรับใครที่เป็นสาวก Hello Kitty อย่าลืมพลิกเข้ามาดู Sky Shop เพื่อช้อปสินค้า Hello Kitty กันได้นะคะ
เรามาดูด้านในเล่มกันค่ะว่ามีอะไรบ้าง ใครสนใจอันไหนก็อย่าลืมติดต่อพนักงานบนเครื่องบินนะคะ
สำหรับ Elite Class นั้นเป็น Touch Screen ค่ะ แต่เราก็ถนัดกดจากรีโมทแบบนี้น่ะแหละ
ลองเปิดเจอหน้านึง 😀 มีรายละเอียดการดูขั้นของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินด้วยค่ะ ;D